หน้าแรกการเมือง“ทิพานัน"ย้อนแสบเพื่อไทยอัด“บิ๊กตู่”ดีแต่กู้ ไม่ละอายใจสมัย“ยิ่งลักษณ์”ไร้วิกฤตแต่ยังสร้างหนี้ล้น ทั้ง“จำนำข้าว-เอื้ออาทร”เสียหายเกินล้านล้านบาท ทิ้งภาระให้ลูกหลานตามใช้หนี้อีก 12 ปี

“ทิพานัน”ย้อนแสบเพื่อไทยอัด“บิ๊กตู่”ดีแต่กู้ ไม่ละอายใจสมัย“ยิ่งลักษณ์”ไร้วิกฤตแต่ยังสร้างหนี้ล้น ทั้ง“จำนำข้าว-เอื้ออาทร”เสียหายเกินล้านล้านบาท ทิ้งภาระให้ลูกหลานตามใช้หนี้อีก 12 ปี

วันที่ 25 พ.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีน.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ7ปีดีแต่กู้ หากไม่เปลี่ยนผู้นำประเทศลงเหวว่า การแสดงความเห็นของน.ส.ตรีชฎา สะท้อนมาตรฐานของทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยที่ค่อนข้างตกต่ำ ด้วยเป็นการวิจารณ์โดยไม่มีฐานข้อมูลรองรับที่ถูกต้องนั่งเทียนด้วยอคติ ด้วยในความเป็นจริงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศต่างๆทั่วโลกประสบปัญหาเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยกลับยังรักษาอันดับความน่าเชื่อถือไว้ได้จากการจัดอันดับเครดิตขององค์กรชั้นนำระดับโลก ทั้ง S&P Moody’s และ Fitch ที่มีเกณฑ์ในการพิจารณาจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง เสถียรภาพทางการคลังและวินัยทางการคลัง
.
ส่วนเหตุผลที่ต้องกู้เงินนั้น เพื่อใช้เป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข มาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ จากผลกระทบโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ม.33เรารักกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เกษตรกร เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนฐานราก ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายย่อย มาตรการพักหนี้ที่ออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจรายย่อย เพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่ไม่มีสินทรัพย์และรายได้ที่มั่นคงต้องการเข้าถึงเงินกู้ ลดการกู้หนี้นอกระบบ และแก้ปัญหาภาระดอกเบี้ยจากการผิดนัดชำระ การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน
.
นอกจากนี้ยังลดค่าน้ำ-ค่าไฟด้วย รวมทั้งยังใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนการส่งออก การท่องเที่ยว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าใช้จ่ายเงินกู้นั้นตรงจุดและครอบคลุมปัญหาในทุกมิติ ไม่ได้ไร้ทิศทางอย่างที่น.ส.ตรีชฎาพยายามบิดเบือนให้ร้าย
.
น.ส.ทิพานัน  กล่าวว่า  เมื่อต้องเผชิญการแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เพิ่มเติมอีก 7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเพดานที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้กู้ถึง 1 ล้านล้านบาท โดยนำมาใช้แก้ปัญหาการระบาดระลอกใหม่ให้กับสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่น.ส.ตรีชฎาหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงก็คือ ความแตกต่างกันระหว่างการกู้เพื่อแก้วิกฤตกับการกู้เพื่อโครงการทุจริต
.
ภาระหนี้ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรทิ้งเอาไว้จากการขาดทุนโครงการจำนำข้าวที่ทำให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ต้องมีภาระชดใช้หนี้ ให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากว่า 7 แสนล้านบาทและยังต้องตั้งบประมาณชดใช้ไปอีก 12 ปี รวมแล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท ไม่รวมกับภาระหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทรกว่า 2 หมื่นล้านบาท ไม่รวมหนี้เน่าและความเสียหายจากโครงการที่สร้างแล้วขายไม่ได้หลายหมื่นยูนิต รวมถึงภาระค่าบำรุงรักษาซ่อมแซมซึ่งก็กลายมาเป็นภาระของรัฐบาลนี้ทั้งสิ้น ทั้งที่เป็นการบริหารในสถานการณ์ที่ปกติ ไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 หรือวิกฤตใดๆ  
.
“ไม่รู้ว่าน.ส.ตรีชฎากล้ายกเอาการบริหารในยุคของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาบลัฟพล.อ.ประยุทธ์ได้อย่างไรโดยไม่ละอายแก่ใจ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศในสถานการณ์ปกติ ไม่มีวิกฤตใดๆ แต่กลับสร้างหนี้ไว้มากมายตกเป็นภาระคนไทยทั้งชาติตามใช้หนี้เกือบ 20 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยว่านโยบายต่างๆนั้นอยู่ภายใต้สโลแกน ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ ดังนั้นที่ น.ส.ตรีชฎาแนะนำให้เอาวิธีคิดของนายทักษิณมาเป็นแนวทางให้รัฐบาลปฏิบัตินั้น เมื่อดูตัวอย่างผลงานสร้างหนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว ก็คงไม่มีใครเดินตาม เพราะไม่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ” น.ส.ทิพานัน กล่าว
.

ThePOINT #ทิพานัน ศิริชนะ #พลังประชารัฐ #เพื่อไทย #รัฐบาล #ข่าวการเมือง

Must Read

Related News

- Advertisement -