ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ป๋าเปรม”ผู้สร้าง Eastern Seaboard ผู้สร้างอุตสาหกรรมไทยยุคใหม่ ผมเจอ”ป๋าเปรม”ครั้งแรกเมื่อตอนเปิดโครงการ Eastern Seaboard เมื่อรู้ว่าเป็น”คนใต้” ป๋าก็พูดกับผมภาษาใต้ว่า “เหร่าคนใต้ ต้องแหลงภาษาใต้” และผมเชื่อว่าหลายคนคงได้รับคำแนะนำนี้จาก”ป๋า”..เมื่อ”ป๋า”รู้ว่าเป็น”คนใต้”
.
ผมไม่เจอ”ป๋าเปรม”บ่อยนัก แต่ผมกล้ารับรองกับทุกคนในโลกว่าใครก็ตาม ที่”ในหลวง” ๒ รัชกาลทรงไว้วางพระราชหฤทัย ผมถือว่า”ไม่ธรรมดา” น่าเสียดายที่เด็กๆสมัยนี้ มันอ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด บวกกับ”พ่อแม่ไม่สั่งสอน”..มันจึงไม่รู้จัก”ป๋าเปรม”แบบที่ควรรู้จัก ผมจะเขียนถึง”ป๋าเปรม”ที่ผมรู้จักและสัมผัสได้ในฐานะนักบริหาร “ป๋าเปรม”นี่ถือเป็นสุดยอดนักบริหาร และรู้จัก”ใช้คน”ในแบบ “ใช้คนอย่าระแวง ระแวงอย่าใช้คน”
.
“ป๋าเปรม”เป็นนายกรัฐมนตรีไทยในสมัย”โชติช่วงชัชวาล” จึงเป็นจุดกำเนิดโครงการ Eastern Seaboard ที่ยกระดับประเทศไทยจากประเทศด้อยพัฒนา มาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ในโครงการท่าเรือน้ำลึกและโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่มากมายทางตะวันออกที่ชลบุรี ระยอง
.
คนที่”ป๋า”เลือกใช้งานในโครงการนี้ “สาวิตต์ โพธิวิหค” ดร.หนุ่มสาขา SYSTEM ANALYSIS จากฮาร์วาร์ด ในฐานะนักวิชาการที่สภาพัฒน์ฯ ที่มาเขียนแม่บทโครงการที่หลายคนตั้งคำถาม”มันเป็นไปได้จริงหรือ”
พูดถึง Eastern Seaboard ต้องต่อเนื่องเรื่องพลังงาน ที่แม้จะไม่ได้ถือกำเนิดในยุคป๋า แต่เมื่อป๋าเป็นนายกฯ ทั้งปตท. ไทยออยล์ กระทั่งบางจาก ก็เพิ่ง”ตั้งไข่” ทำให้”ป๋า”ต้องเข้ามาจัดระเบียบการบริหาร
.
“ศุลี มหาสันทนะ” เพื่อนร่วมรุ่นสวนกุหลาบ คือคนที่ป๋าขอให้ทิ้งเงินแสนมารับเงินหมื่นในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับนโยบายด้านพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดสมัยรัฐบาลป๋าในช่วงปี 2524 – 2531 “ศุลี”เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทน้ำมัน บางจากปิโตรเลียม โดยเห็นว่าการเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการพลังงาน หรือหากไปขึ้นกับ ปตท.ก็จะไม่สะดวก จึงเสนอให้ตั้งเป็นบริษัทและเป็นผู้เสนอให้”ป๋า”ดึง “เกษม จาติกวณิช” ผู้ว่าการ กฟผ.มาเป็นประธาน และ”โสภณ สุภาพงษ์”รองผู้ว่าการ ปตท.มาเป็นกรรมการผู้จัดการ และ”เกษม จาติกวณิช” ก็เป็นคนที่”ป๋าเปรม”ขอให้เป็นประธานบริษัท ปุ๋ยแห่งชาติ ที่ใช้ผลต่อเนื่องจากปิโตรเคมีมาผลิต
.
ขณะเดียวกัน เด็กๆรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ว่าในช่วงที่”ป๋าเปรม”เป็นนายกฯ คือช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ จนรัฐบาลต้องตัดสินใจ”ลดค่าเงินบาท” และเข้าโครงการรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เป็นครั้งแรก โดยมีการอนุมัติเงินจำนวน 814.5 ล้าน เหรียญ สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน 2524 มาให้ประเทศไทยกู้ โดย IMF ยื่นเงื่อนไขให้ไทยปรับปรุงกลไกการหารายได้เพิ่มของรัฐบาลหลายเรื่อง ในตอนนั้น ระบบการเงินไทยเปลี่ยนโฉมมากมาย ไฟแนนซ์ ธนาคาร ได้รับผลกระทบมากมาย แต่โชคดีที่”ป๋าเปรม”ใช้คนถูกงาน จนทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักชื่อ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ที่มีมากมายก่อนหน้านี้
.
คนแรกคือ”สมหมาย ฮุนตระกูล” อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ปูนนซิเมนต์ไทย ที่ถือเป็น”ขุนคลังคู่บารมี”ของป๋าเปรม โดยดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2523-2529 ก่อนโยนไม้ส่งต่อถึง “สุธี สิงห์เสน่ห์” ที่เข้ามาครั้งแรกในฐานะ รมช.คลัง ก่อนขยับขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ แม้ในช่วงนั้นจะเป็นยุค”โชติช่วงชัชวาล” แต่เศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก กระทรวงการคลังจึงมีนโยบายทั้งจำกัดเพดานเงินกู้ กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ย ที่แม้จะเป็น”ยาขม” แต่สุดท้าย …เศรษฐกิจไทยก็พ้นห่วงกรรม
.
ที่ต้องยกย่องอีกคนในฐานะ”ลูกป๋า”ที่ถูกดึงมาช่วยงาน คือ”ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ลูกศิษย์ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ดีกรีปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่”ป๋าเปรม”ดึงมาเป็น”โฆษกรัฐบาล” แม้จะแถลงข่าวแบบสำเนียง”ทองแดง” แต่”สามสี ภูเขาทอง” ก็แถลงข่าวโดยแทรกความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ และบอก”ความจริง”จนคนไทยไม่ตระหนกว่าในตอนนั้น ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แม้จะมีรูปธรรมเชน ทีวีต้องปิดสถานีในเวลา 18.30 -20.00 น. เพื่อประหยัดไฟ
.
“ป๋าเปรม”ถือเป็นคนใช้งานคนเป็น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ”ชาญ มนูธรรม” “ชาญ มนูธรรม” เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสวนกุหลาบอีกคนที่”ป๋าเปรม”ไว้ใจ โดยเคยดำรงตำแหน่งรมช.คมนาคม และรัฐมนตรีสำนักนายกฯ โดย”ป๋า”จะตอบคำถามวื่อถึงการเลือก”เพื่อน”มาเป็นรัฐมนตรีในทำนองว่า “ผมรู้จักเพื่อนผมดี”
.
ที่สำคัญก็คือ คนทำงานที่”ป๋าเปรม”เลือกมาทำงานด้วย ทุกคนไม่เคยมีข่าวฉาวเรื่องเงินๆทองๆ และทุกคนมุ่งมั่นทำงานเพื่อ”แทนคุณแผ่นดิน”อย่างแท้จริง พวกที่อ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด..จึงไม่รู้เรื่องพวกนี้
ทั้งที่”ป๋าเปรม”คือต้นแบบ”แทนคุณแผ่นดิน”ที่รับใช้ในหลวง ๒ รัชกาลจนวาระสุดท้ายของการดำรงชีพ
cr chai seeho
.
‘ดร.สมเกียรติ’ยก’ป๋าเปรม’ผู้สร้างอุตสาหกรรมไทยยุคใหม่ เสียดาย!!เด็กสมัยใหม่ไม่รู้จักในฐานะสุดยอดนักบริหาร
- Advertisement -