หน้าแรกการเมือง'วิโรจน์'บุกถึงที่!!โรงไฟฟ้าขยะ ผงะกลิ่นยังเหม็นฟุ้ง ยันไม่ได้แอนตี้ ตั้งข้อสังเกตเอื้อนายทุนบ่อกลบขยะหรือไม่?

‘วิโรจน์’บุกถึงที่!!โรงไฟฟ้าขยะ ผงะกลิ่นยังเหม็นฟุ้ง ยันไม่ได้แอนตี้ ตั้งข้อสังเกตเอื้อนายทุนบ่อกลบขยะหรือไม่?

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 พร้อมด้วย ฐาปนีย์ สุขสำราญ ผู้สมัคร ส.ก.เขตประเวศ พรรคก้าวไกล หมายเลข 6 เดินทางไปยังหมู่บ้านอิมพีเรียลพาร์ค ถนนเฉลิมพระเกียรติ ซอย 67 พื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะของ บริษัท กรุงเทพธนาคม โดยเฉพาะเรื่องมลพิษทางกลิ่นที่เหม็นรบกวนความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง และกระจายไปไกลในรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร
.
ทั้งนี้มีหมู่บ้านได้รับผลกระทบกว่า 30 หมู่บ้าน ล่าสุด มีคำสั่งจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้สั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าของ บริษัท กรุงเทพธนาคม เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตาม Code of Practice : CoP สำหรับการใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการจัดการเชื้อเพลิงขยะชุมชนจนส่งผลให้เกิดปัญหากลิ่นเน่าเหม็นต่อชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
.
นายวิโรจน์ ระบุว่า แม้มีคำสั่งดังกล่าวออกมา แต่ไม่ได้หมายความว่า การดำเนินกิจกรรมในโรงไฟฟ้าขยะแห่งนี้จะยุติลง ในทางกลับกันอาจเอื้อให้โรงไฟฟ้าขยะกลายเป็นที่พักขยะ เพื่อส่งต่อไปฝังกลบในบ่อขยะในพื้นที่อื่น รวมถึงบ่อใหญ่ในจังหวัดข้างเคียง หมายความว่า กรุงเทพมหานครอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 800 บาทต่อตัน และหากการกำจัดขยะโดยเปลี่ยนเป็นพลังงานทำไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการลดการฝังกลบ จากเดิมร้อยละ 80 ให้เหลือร้อยละ 30 ปัญหาขยะแบบเดิมๆก็จะยังอยู่กับกรุงเทพต่อไป
.
“หลายคนมองว่า ผมแอนตี้โรงไฟฟ้าขยะ ความจริงไม่ใช่เลย พวกเรามองว่าเป็นแนวคิดที่ดีด้วยซ้ำในการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นพลังงานด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เพราะไม่ว่าสวีเดน โกเบ โอซาก้า โรงไฟฟ้าขยะไปตั้งที่ไหนเขาก็ยิ่งยินดี เพราะหมายถึงเขาจะได้อากาศที่กรองสะอาดขึ้น มีน้ำที่สะอาดขึ้น อย่างในญี่ปุ่นกรองเสียจนน้ำสะอาดเกินไป ทำให้ปลาไม่แข็งแรง เจอเชื้อโรคจะตายง่าย เลยต้องเติมสารเคมีเพิ่มลงไปด้วยซ้ำ โรงงานแบบนี้อยู่กับเมืองของเขามา 20-30 ปีก็ไม่มีปัญหา แต่ของเรากลายเป็นว่าเอาโครงการที่ดีระดับโลกมาตายที่ กทม.ไปหมด”นายวิโรจน์ กล่าว
.
นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ปัญหากลิ่นของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ไม่ได้เกิดจากปัญหาขยะมากถูกพักไว้แล้วเกิดกลิ่นเหม็น แต่กลิ่นที่รุนแรงขนาดนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากกระบวนการหมักของขยะ เพื่อเตรียมเปลี่ยนเป็น RDF : Refuse Derived Fuel หรือเชื้อเพลิงขยะ ซึ่งเดิมออกแบบไว้เป็นระบบปิด แต่จากการตรวจสอบของกรมโรงงานพบว่า ระบบบำบัดกลิ่นเสีย ทำให้เกิดกลิ่นที่รุนแรงจนต้องเปิดระบายออกมาสร้างปัญหาให้พื้นที่รอบข้างและนำไปสู่การร้องเรียนต่างๆ
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า การทำให้เทคโนโลยีดีๆกลายเป็นระบบที่ใช้การไม่ได้ อาจเกิดจากความจงใจเอื้อกลุ่มทุนธุรกิจบ่อขยะที่จะเสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นค่านำไปฝังกลบที่ กทม.ต้องจ่ายดังที่กล่าวไปข้างต้น หรือจากรายได้ที่คนเข้าไปคัดแยกเอาขยะต้องเสีย ซึ่งตรงนี้รู้กันว่าเป็นธุรกิจที่มีมาเฟียคุมมาอย่างยาวนาน เมื่อโรงไฟฟ้าขยะเหล่านี้ใช้งานไม่ได้ สุดท้ายจะเหลือสภาพเป็นเพียงจุดพักขยะเพื่อรอนำไปที่บ่อขยะรอการฝังกลบ สำหรับพื้นที่จุดพัก จากแค่ปัญหากลิ่นก็จะขยายต่อกลายเป็นปัญหาน้ำเพราะไม่เชื่อว่าจะมีการออกแบบไว้เพื่อรองรับขยะที่หมักหมมและน้ำเสียอาจซึมลงดินไปสู่แหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆได้
.
หลังการพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ นายวิโรจน์ ยังเข้าไปพูดคุยกับพนักงานที่ทำงานในโรงไฟฟ้าขยะโดยตรง เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการซ่อมระบบบำบัดกลิ่นที่เสีย และรูปแบบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขยะ หลังมีคำสั่งจาก กกพ.สั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า ว่ายังมีการดำเนินการต่อไปหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นเพียงการยุติการขายไฟฟ้าเท่านั้น แต่การดำเนินการหมักเพื่อแปลงขยะเป็น RDF ยังมีอยู่ โดยลดปริมาณลง
.
อย่างไรก็ตาม การรับขยะเข้ามาวันละ 800 ตัน ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยอมรับว่า หากกระบวนการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงานหยุดชะงักก็เป็นไปได้ที่จะต้องนำไปสู่กระบวนการฝังกลบ ส่วนการซ่อมระบบบำบัดกลิ่นจะเสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งนายวิโรจน์ ได้ขอว่า หากซ่อมเสร็จจริงขอให้รายงานไปทางคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย เพื่อจะขออนุญาตนำคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยทีมวิศวะสิ่งแวดล้อมลงมาตรวจสอบ ซึ่งทางบริษัทรับปากตามที่ขอ
.
นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า โรงไฟฟ้าขยะแห่งนี้ เกิดจากคำสั่ง คสช.ที่ 4/2559 ซึ่งละเว้นกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ประชาชนในพื้นที่จึงยังมีข้อสงสัยว่า การจัดการที่ล่าช้าในเวลานี้ เป็นเพราะคณะกรรมการบริษัทแห่งนี้มีนายทหารระดับสูงที่อาจรู้จักกับ พล.อ.อนุพงศ์ ,พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ด้วยหรือไม่ รวมถึงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์นายทุนธุรกิจบ่อกลบขยะในจังหวัดข้างเคียง จึงทำให้การแก้ไขปัญหาอะไรก็ตามที่ควรจะทำได้ง่ายกลับกลายเป็นยาก
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #ก้าวไกล #ผู้ว่ากรุงเทพ #หาเสียง #ผู้ว่ากทม. #โรงไฟฟ้าขยะ

Must Read

Related News

- Advertisement -