นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ถูกออกหมายจับ ในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อต้นปี 2563 โดยนายพิธา ระบุว่า ผมพร้อมด้วยเพื่อนๆ ส.ส. พรรคก้าวไกล ทีมงานว่าที่ผู้สมัคร และพี่น้องประชาชน ได้ไปร่วมให้กำลังใจนายรังสิมันต์ โรม ที่สน.บางขุนนนท์ เนื่องจากถูกออกหมายจับจากกรณีอภิปรายนอกสภา ในเรื่องป่ารอยต่อ ที่อภิปรายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อช่วงต้นปี 63
.
โดยผลสรุปของคือ “สำนวนไม่สมบูรณ์”คำถามที่หลายคนคงสงสัยเหมือนกันกับผมก็คงจะเป็นคำถามที่ว่า ในเมื่อพนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่สมบูรณ์ คดีความก็ไม่ได้มีโทษสูงเข้าเกณฑ์ให้ออกหมายจับ และโรมก็ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี การออกหมายเรียกครั้งแรกของตำรวจก็ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก ส.ส. มีเอกสิทธิ์ในวาระที่มีการเปิดสมัยประชุม การออกหมายเรียกครั้งที่สอง(ที่ควรจะนับเป็นครั้งแรก) โรมก็ได้ส่งหนังสือแจ้งล่วงหน้าว่าติดภารกิจในการทำหน้าที่ ส.ส. ไปแล้ว จึงเป็นคำถามว่า แล้วหมายจับนี้ออกมาได้อย่างไร?
.
นี่คือสิ่งที่กระบวนการยุติธรรม ไล่ตั้งแต่ตำรวจไปจนถึงอัยการ และศาล ควรชี้แจงกับประชาชนให้สิ้นข้อกังขา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประชาชนมีข้อกังขาต่อการทำงานของกระบวนการยุติธรรม และเมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ก็คงอดคิดไม่ได้ว่า นี่อาจจะเป็น”ใบสั่ง” จากผู้มีอำนาจ ที่ตั้งใจจะเล่นงานคนที่พูดความจริงอย่างโรม ซึ่งทำหน้าที่รับใช้และรักษาผลประโยชน์ของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็น ป่ารอยต่อ ตั๋วช้าง ค้ามนุษย์
.
ในกรณีของโรม ที่มีเกราะป้องกันตัวในฐานะ ส.ส. ทีมีเอกสิทธิ์ มีความรู้ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างดี ยังโดนเล่นงานแบบนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่มีเอกสิทธิ์ป้องกันตัว ก็อาจจะโดนเล่นงานด้วยกระบวนการยุติธรรมที่อาจจะไม่ยุติธรรม ยิ่งกว่าที่โรมโดนในวันนี้ได้มากขนาดไหน
.
#ThePOINT #ข่าวการเมือง #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #พรรคก้าวไกล #คดีหมิ่นประมาท #มูลนิธิป่ารอยต่อฯ #อภิปราย63