นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่า ถ้าคิดแบบปฏิบัตินิยมในสถานการณ์ปัจจุบัน หากยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะเร่งความขัดแย้งในชาติให้รุนแรงขึ้นอีก เช่น 1.) เกิดการดูหมิ่นต่อสถาบันมากขึ้น นำมาสู่ 2.) เกิดความขัดแย้งสองฝ่าย และจะนำไปสู่การปะทะกันบนท้องถนน 3.) เกิดวิกฤตการเมืองรอบใหม่ เป็นช่องว่างทำให้เกิดการแทรกแซงทางการเมือง เข้ายึดอำนาจหรือรัฐประหารอีก
.
“ทุกฝ่ายต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตการเมืองอีก ผมว่าประเทศเราพอแล้วกับเรื่องวิกฤตการเมือง ยิ่งแก้ก็ยิ่งแน่น วิกฤตข้างหน้ามันคือวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคระบาด งานสำคัญคือการปรับรูปแบบการบริหารราชการขนานใหญ่ ให้ทันโลกทันวิกฤตใหม่ มีเรื่องที่คุ้มค่าแก่การทะเลาะกันทางความคิดเพื่อประโยชน์ชาติอีกมาก” เลขาธิการพรรคกล้า กล่าว
.
นายอรรถวิชช์ ยังย้ำเตือนถึงทุกพรรคการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็นด้วยว่า การสร้างคะแนนนิยมบนความเกลียดชังหรือความขัดแย้ง แบ่งคนออกเป็นสองฝ่าย วันนี้ต้องสิ้นสุดเสียที
.
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กแชร์ข้อความที่นายอรรถวิชช์แถลง พร้อมย้ำจุดยืนของพรรคเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรา 112 โดยระบุว่า แสดงจุดยืนแนวคิดการยกเลิกมาตรา 112 นั้น ผมขอเน้นตามที่คุณอรรถวิชช์แถลงว่า“ทุกฝ่ายต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิด ‘วิกฤตการเมือง’ อีก ผมว่าประเทศเราพอแล้ว กับเรื่องวิกฤตการเมือง! วิกฤตที่จะมาถึงต่อจากนี้คือ ‘วิกฤตเศรษฐกิจ’ ที่เป็นผลพวงจากโรคระบาด งานสำคัญที่สุดคือ การปรับรูปแบบการบริหารราชการขนานใหญ่ให้ทันโลก ทันเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันการณ์ต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อเป้าหมายสำคัญคือ “คนไทยต้องอยู่ดีกินดี”!
- Advertisement -