วันที่ 26 ต.ค.64 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบการกระทำของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่วิดีโอคอลพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยบทสนทนามีการพูดถึง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ล้วนแต่เป็นการสนทนาที่มีนัยทางการเมือง ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 28 “ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใด อันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
.
ประกอบกับการพิจารณาเพิ่มเติมจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ม.45 คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย คำวินิจฉัยและหนังสือ กกต. ต่างๆ และมาตรฐานทางจริยธรรม และขอให้ กกต. พิจารณา ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ต่อไป
.
ด้านนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย กรณีคลิปงานเลี้ยง ส.ส.เพื่อไทย เช่นเดียวกัน โดยระบุว่า มองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดและฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ในมาตรา 28 และมาตรา 29 ที่ว่าด้วยพรรคการเมืองที่จะไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคครอบงำ ชี้นำ หรือควบคุม และสมาชิกที่เข้าไปอยู่ในช่วงเวลานั้นเป็นสมาชิกพรรคการเมืองทั้งสิ้น
.
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า อีกประเด็นคือมาตรา 74(1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่ตนจะเรียกร้อง กกต.ให้ตรวจสอบสัญชาติของนายทักษิณ เพราะนายทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว และเท่าที่ทราบเขาได้ถือสัญชาติไม่ต่ำกว่า 3 สัญชาติ ดังนั้น จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐได้ตรวจสอบว่าปัจจุบันนายทักษิณยังถือสัญชาติไทยอยู่หรือไม่ หรือกรณีที่ถือสัญชาติมอนเตเนโกรจะต้องมีการบังคับว่าจะถือสัญชาติอื่นได้ด้วยหรือไม่ เพราะการถือสัญชาตินี้จะเข้าสู่ประเด็น พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 74(1) ด้วย
.
- Advertisement -