นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ นายทะเบียนพรรคกล้า โพสต์ข้อความระบุว่า ระบบราชการ กับ การตอบสนองต่อวิกฤติโควิด มาช้าแต่ก็…ยังดีกว่าไม่มา วันนี้ได้เห็นกระทรวงสาธารณสุขออกมาชี้แจงเรื่องการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยโควิดทำนองว่าจ่ายยาเร็วลดโอกาสป่วยหนักและทำให้หายเร็วกว่า ใจนึงก็ดีใจ แต่ใจนึงก็ตกใจครับ ว่าเรื่องแค่นี้มันใช้เวลานานขนาดนั้นได้อย่างไร
.
เรื่องนี้ พรรคกล้า – KLA Party ได้มอบหมายให้ทีม พรรคกล้า-กทม. ศึกษาโดยผมกับหมอ กันตพงศ์ ดีชัยยะ แม็พ ยื่นข้อเรียกร้องนี้ไปยังสำนักการแพทย์ตั้งแต่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ และซ้ำด้วยจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ โดยได้อ้างอิงผลงานวิจัยของต่างประเทศด้วย ในใจผมคิดว่าเค้าคงได้ข้อสรุปกันไปนานแล้ว แต่ที่ยังล่าช้าคงเป็นเพราะระบบการบริหารจัดการ
.
วันนี้กระทรวงเพิ่งออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าเห็นด้วยกับงานวิจัยของต่างประเทศ และได้ปรับแนวทางการจ่ายยาแล้ว ซึ่งเป็นวันที่ยอดสะสมผู้ป่วยทะลุล้าน เสียชีวิตไปแล้ว ๘,๘๒๖ ป่วยหนักอีก ๕,๕๓๘ ราย อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้ากระทรวงใส่ใจเรื่องนี้และปรับวิธีการให้ยาใหม่มาก่อนหน้านี้ สถานการณ์วิกฤติโควิดคงไม่เดินมาไกลถึงขนาดนี้ และก็อดคิดไม่ได้ว่าที่อยู่ๆ ก็ออกมาแถลงความจำเป็นต้องจ่ายยาเร็วขึ้นก็มาสอดคล้องในวันที่จะซื้อยาล็อตใหญ่และมีคนค้าน สรุปการแถลงเรื่องมาตรการจ่ายยาเร็วเป็นไปเพื่อผู้ป่วยจริงๆ หรือเพื่อเหตุผลอื่นใด
.
แต่ไม่เป็นไรครับผ่านแล้วผ่านไป จะเหตุผลอะไรคงไม่สำคัญ หลังจากนี้ฝากข้อเรียกร้องไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า “เพื่อผลประโยชน์ของผู้ป่วย” ขอได้โปรดเร่งประชาสัมพันธ์แนวทางการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์อย่างรวดเร็วนี้ ออกไปให้ไกลให้ดังที่สุด เพื่อ
.
๑. “ให้หน่วยงาน” รับรู้และปฏิบัติตาม
๒. “ให้ประชาชน” รับรู้เพื่อจะได้ทวงเรียกหายาได้ตามสิทธิที่พึงมี
๓. “มีสายด่วนหรือช่องทางแจ้งความเดือดร้อน” ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมหากไม่ได้รับยารวดเร็วตามมาตรฐานการรักษา
ทั้งนี้เพื่อรักษาชีวิต และเพื่อระงับยับยั้งวิกฤตการณ์นี้ให้รวดเร็วที่สุดครับ
.

#ThePOINT #ข่าวการเมือง #พรรคกล้า #ณัฐนันท์กัลยาศิริ #ผู้กล้าคลองสามวา #กระทรวงสาธารณสุข #โควิด #ยาฟาวิพิราเวียร์