หน้าแรกข่าวเด่น‘กรณ์’ มองทะลุ ‘ทรัมป์’ ถอย สงครามการค้าจะจบอย่างไร ?

‘กรณ์’ มองทะลุ ‘ทรัมป์’ ถอย สงครามการค้าจะจบอย่างไร ?

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง โพสต์ข้อความ ระบุว่า ทรัมป์ถอย – สงครามการค้าจะจบอย่างไร?

เรื่องนี้เริ่มด้วยอเมริกาประกาศเพดานภาษีกับทุกประเทศทั่วโลก

เมื่อคืนนี้ปรับของทุกประเทศลงมาที่ 10% ถ้วนหน้า แต่เพิ่มของจีนเป็น 125% (ผมว่าเป็นการเพิ่มเพื่อรักษา form ไม่ให้คิดว่ามีแต่ถอย ซึ่งจะ 125 หรือ 104 ไม่ได้ต่างกันเท่าไร)

ดังนั้นตอนนี้หลักๆกลายเป็นสงครามระหว่างอเมริกากับจีน เพราะจีนเป็นประเทศเดียวที่ไม่ยอมอเมริกา (จริงๆมีแคนาดาด้วย แต่เป็นความขัดแย้งคนละระดับกัน)

ทรัมป์คงเห็นแล้วว่าในสงครามนี้ ไม่ควรผลักให้คนอื่นๆกลายเป็นศัตรู

ซึ่งประเด็นนี้สำคัญ

เพราะจากนี้เริ่มมีการประเมินว่า ขั้นตอนต่อไป คืออเมริกาอาจจะเรียกร้องให้ประเทศคู่ค้าต่างๆเลือกว่าจะค้ากับอเมริกาหรือจีน!

อันนี้เรื่องใหญ่ ฟังแล้วอาจเกินความเป็นจริง แต่หากเรามองว่าเราอยู่ในสภาวะสงคราม สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็อาจจะเกิดได้

สาเหตุที่อเมริกาอาจจะเรียกร้องตามนี้ก็เพราะ อเมริกาจะยอมตกลงอัตราภาษีกับประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ได้ ถ้าประเทศนั้นยังมีการค้ากับจีนเพราะจะเสมือนอเมริกายอมให้จีนขายสินค้าทางอ้อมให้กับอเมริกาในอัตราภาษีที่ตํ่ากว่าเทียบกับถ้าจีนขายให้อเมริกาโดยตรง

อันนี้ยังไม่นับข้อเท็จจริงที่ว่ามีสายเหยี่ยวทั้งที่จีนและอเมริกามองเป็นทุนเดิมว่า สุดท้ายแล้วระหว่างจีนกับอเมริกาฝ่ายหนึ่งต้องเป็นผู้ชนะและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้แพ้

วันนี้อเมริกาได้เริ่มกดดันประเทศที่ส่งออกสินค้าที่ผลิตโดยจีนหรือผลิตด้วยวัตถุดิบจากจีน ขั้นตอนต่อไปก็เพียงออกกฏว่าหากยังซื้อของจากจีนก็จะไม่สามารถค้าขายกับอเมริกาได้เลย เว้นจะโดนภาษี 104% ด้วย …นี่คือสิ่งที่ผมกลัว

หากเราต้องเลือก เราจะเลือกอย่างไร? ไทยเองขาดดุลมหาศาลจากการค้าขายกับจีน เราผลิตสู้เขาไม่ได้ แต่เราก็ไม่อยากต้องเลือก ของเราจะแพงขึ้น ถ้าอเมริกากดดันแบบสุดโต่ง ไม่เพียงจำกัดสินค้าจีนที่เป็นวัตถุดิบ แต่จำกัดสินค้าทุกชนิด เราจะไม่มีทางเลือกที่จะซื้อรถ BYD ทีวี Hisense หรือ โทรศัพท์ Huawei สินค้าของเราหลายอย่าง (เช่นทุเรียนหรือลำไยอบแห้ง) เราก็จะขายใครไม่ได้เลย นักท่องเที่ยวจีนก็จะหาย

จะทิ้งอเมริกาก็อย่าลืมว่าเรามีดุลการค้าที่เป็นบวกกับเขาปีละ 1 ล้านล้านบาท ผู้ประกอบการไทยจะเดือดร้อนแค่ไหนหากเราถูกกีดกันไม่ให้ค้าขายกับอเมริกา

ที่น่ากลัวมากกว่านั้นคืออเมริกาอาจจะใช้ ดอลลาร์เป็นอาวุธ ใครไม่เลือกข้างเขาอาจจะโดนภาษีการถือครองดอลลาร์ ดีไม่ดีทรัมป์เล่นบทถนัดในการต่อรองปรับโครงสร้างหนี้กับประเทศเจ้าหนี้อีก (เราเป็นเจ้าหนี้ใหญ่นะครับ ถือพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาอยู่นับล้านล้านบาท)

สงครามนี้ประเทศอย่างเราจะลำบากมาก ต้องคิดเผื่อและเตรียมตัว เรามียุทธศาสตร์ไม่เลือกข้างมาตลอด และคิดเสมอว่าทั้งสองประเทศมหาอำนาจเขาต้องแข่งกันมาง้อเรา ตอนนี้ดูเหมือนมีหนึ่งฝ่ายที่เปลี่ยนกลยุทธ์ ไม่ง้อแล้วแต่จะใช้การขู่แทน ว่าจะเลือกใคร

ที่น่ากลัวที่สุดคือประวัติศาสตร์ สาเหตุสำคัญที่ญี่ปุ่นตัดสินใจบุก Pearl Harbour เมื่อ 80 กว่าปีก่อนก็เพราะญี่ปุ่นเกรงว่าจะถูกปิดล้อมทางเศรษฐกิจ

ไทยเราต้องคิดเผื่อทุกสถานการณ์ ทางการทหารตามปกติจะมีการเตรียมตัวป้องกันภัยคุกคามอยู่แล้ว แต่ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มโอกาสสูงกว่า เรานิ่งเฉยไม่คิดเผื่อไม่ได้เลย

_____________

#Thepoint #Newsthepoint

#สงครามการค้า #โดนัลด์ทรัมป์ #ขึ้นภาษี

#กรณ์จาติกวณิช

Must Read

Related News

- Advertisement -