เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2568 น.ส. พรรณการ์ วาณิช อดีต สส. พรรคอนาคตใหม่ ว่า ตอนนี้พรรคประชาชนอยู่ในไฟท์บังคับ ที่จำเป็นจะต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ได้ภายในสมัยประชุมนี้เพราะในเดือนเมษายนกำลังจะปิดสมัยประชุมหากเลื่อนไปเรื่อยเรื่อย ก็จะเข้าทางฝั่งรัฐบาลคือไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ไขญัตติ ก็จะหมดเวลาไปเองตามที่กฎหมายกำหนด และกลับมายื่นอภิปรายใหม่ในอีกหลายเดือนข้างหน้า
“เมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าไม่สามารถระบุชื่อนายทักษิณ ลงไปในญัตติได้ พรรคประชาชนก็จะต้องแก้ไขญัตติตัดชื่อนายทักษิณออก แล้วเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน แต่การตัดชื่อนายทักษิณ ออกไม่ได้หมายความว่าเนื้อหาของการอภิปรายจะเปลี่ยนไป ดังนั้นพรรคประชาชนต้องปรับเพื่อให้เปิดการอภิปรายได้”
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้มีนัยยะทางการเมืองที่สำคัญ ว่านายทักษิณมีสถานะพิเศษ ถึงทำให้ประธานสภาฯ ต้องคำสั่งให้ตัดชื่อออกจากญัตติ โดยที่ไม่มีระเบียบรองรับ อีกทั้งประธานสภาฯ สมัยที่เป็นฝ่ายค้านก็เคยยื่นญัตติ ที่มีชื่อบริษัทเอกชนซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ต่อนายชวนหลีกภัย ประธานสภาในขณะนั้น และก็สามารถบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการอภิปรายได้ ดังนั้นมองว่านี่คือการใช้อำนาจโดยการหาข้อบังคับไม่เจอ และทำให้นายทักษิณอยู่ในสถานะพิเศษยิ่งทำให้จำเป็นจะต้องมีการอภิปราย นายทักษิณภายใต้การนำของรัฐบาลชุดนี้
พรรคประชาชนควรใช้เทคนิคทำให้รัฐบาลหลงทาง โดยไม่ใส่ชื่อนายทักษิณแต่ยังคงใช้เนื้อหาเดิม เช่นนายกรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินโดยให้บิดามาชักใย และมั่นใจว่าในการอภิปรายน่าจะมีการอภิปรายถึงเรื่องส่วนตัว ของนายกรัฐมนตรีอยู่มาก แต่ต้องไม่ลืมว่า 17 ข้อหาที่กล่าวอ้างเรื่องของนายทักษิณเป็นเพียงแค่หนึ่งเรื่องเท่านั้น ยังมีอีก 16 ประเด็นที่จะต้องถูกอธิบาย และพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกฯ เพียงคนเดียวเท่านั้น
……….
#Thepoint #Newsthepoint
#รัฐบาลเพื่อไทย #นายกอุ๊งอิ๊งค์ #ซักฟอก
#ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ #ทักษิณชินวัตร
#พรรคประชาชน #พรรคส้ม #พรรณการ์วาณิช