หน้าแรกข่าวเด่นมั่นใจจีดีพีโต 3% ‘นายกอิ๊งค์’ นำถกบอร์ดกระตุ้น ศก. พุ่งเป้ากลุ่ม Luxury!!

มั่นใจจีดีพีโต 3% ‘นายกอิ๊งค์’ นำถกบอร์ดกระตุ้น ศก. พุ่งเป้ากลุ่ม Luxury!!

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.การคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายดรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เข้าร่วมประชุม

โดยนายกฯ กล่าวก่อนประชุมว่าระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น และนโยบายการกระตุ้นต่างๆ ก็มาจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องมือสำคัญ โดยกระทรวงการคลังได้ประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 น่าจะเติบโต 3 เปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและความตั้งใจทำงานของทุกกระทรวงร่วมกับเอกชน จะทำให้เติบเศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯทวีตข้อความผ่านเอ็กว่า ก่อนประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้เชิญทีมก.คลัง นำโดยท่านพิชัยรองนายกฯและ รมว.คลัง รมช.คลัง รวมถึงปลัด ก.คลัง เพื่อติดตามแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามทิศทางนโยบายทางด้านการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นการใช้จ่ายการลงทุนภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกสินค้าและบริการ ที่จะต้องช่วยกันเร่งติดตามเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ของรัฐบาลอย่างโครงการเงินหมื่นเฟส 3 ยังได้แลกเปลี่ยนถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเครื่องยนต์สำคัญอย่าง การท่องเที่ยว ได้หยิบประเด็นจากการประชุม ITB Berlin ที่ไปร่วมงานมา มีหลายแง่มุมการท่องเที่ยวที่จะต้องร่วมกันผลักดันร่วมกับหลายกระทรวงต่อไป นโยบายเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือหลายภาคส่วนทั้งจากรัฐและเอกชน ร่วมทั้งบูรณาการทำงานหลายกระทรวง ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและการวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาว



จากนั้นเวลา 11.20น. น.ส.แพทองธาร ทวีตขอความภายหลัง ประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเนื้อหาสรุปว่า ด้วยความร่วมมือทุกภาคส่วน ศักยภาพเศรษฐกิจไทยปี 2568 น่าจะเติบโตได้มากกว่า 3% ในปีนี้ แต่เชื่อว่า วงประชุมนี้จึงเป็นวงที่เรามาร่วมกันคิด เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ และอยู่ในกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และร่วมกันวางโครงสร้างในระยะยาวไปพร้อมๆกัน ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้มีการเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่สาม เพื่อเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี และจะต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อสแกน QR code ณ ร้านค้าในพื้นที่เขตหรืออำเภอที่ประชาชนมีอยู่ตามทะเบียนบ้าน โดยตนได้เน้นย้ำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเครื่องยนต์สำคัญอย่างการท่องเที่ยว ที่จะต้องดำเนินต่อไปตามแผนงาน และมีแผนงานใหม่ที่มุ่งไปยังกลุ่ม luxury เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อหัวมากขึ้น อีกเรื่องที่สำคัญคือกลุ่มการเกษตร ที่จะต้องพัฒนากระบวนการเกษตรทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การส่งออกสินค้าเกษตร และดูแลราคาสินค้าเกษตรให้เป็นธรรมหรือสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องเกษตรกร และทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้นด้วย

#Thepoint #Newsthepoint

#คาสิโนถูกกฎหมาย #รัฐบาลเพื่อไทย #เศรษฐกิจไทย

#จีดีพี2568 #ดิจิทัลวอลเล็ต #แจกเงิน1หมื่นบาท

Must Read

Related News

- Advertisement -