นายทศพล พรหมเกตุ เลขาธิการพรรคไทยภักดี กล่าวผ่านเพจ พรรคไทยภักดี ระบุว่า
เศรษฐกิจไทยช่วงตั้งแต่หลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นมา ตกต่ำลงอย่างหนัก ดัชนีตัวเลขวัดภาวะเศรษฐกิจต่าง ๆ ตกลงทุกตัวไม่ว่าจะเป็นตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ปี2567 อยู่ที่ 2.5% เติบโตรั้งท้ายอาเซียน ชนะแค่เพียงเมียนมาที่เผชิญสภาวะสงครามภายในประเทศเท่านั้น
แพ้ทั้งลาวและกัมพูชา ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปกว่า 300 จุด จากดัชนีหุ้นที่ 1,561 จุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เหลือเพียง 1,240 จุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำลงยกแผง ทั้งข้าว,อ้อย,มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ธุรกิจ SME เจ๊งปิดกิจการไปแล้วนับหมื่นราย
ในขณะที่รัฐบาลแทบจะไม่มีมาตรการใด ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจเลย การแจกเงินหนึ่งหมื่นบาทที่ผ่านมาทั้ง 2 เฟส แทบจะไม่มีผลใด ๆ เกิดขึ้นเลย แม้จะใช้เงินงบประมาณมากร่วม 2 แสนล้านบาท และต่างก็คาดหมายว่าแม้รัฐบาลจะแจกเงินหมื่นเฟสที่ 3 อีก2-3 แสนล้านบาทก็จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมาได้
วันนี้ประชาชนแทบทุก ๆ กลุ่มต่างล้วนหมดสิ้นความหวังกับรัฐบาลนี้ไปแล้ว ต่างต้องพึ่งพาตนเองเป็นสำคัญ ประคับประคองตนเองให้อยู่รอดพ้นภาวะวิกฤตช่วงนี้ไป รอดพ้นไปสู่ยุครัฐบาลใหม่ในอนาคต ประชาชนได้แต่หวังว่ารัฐบาลนี้จะจบลงล้มลงไปโดยเร็ววัน
…..
#Thepoint #Newsthepoint
#เศรษฐกิจไทย #ไทยภักดี #GDP2568
#เศรษฐกิจตกต่ำ #ทศพลพรหมเกตุ