จากกรณี อิมาน เคลิฟ นักมวยที่มีพันธุ์กรรมเสมือนผู้ชาย ชาวแอลจีเรีย ทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของรุ่นเวลเตอร์เวท 66 กก. หญิง ในโอลิมปิก หลังจากคู่ต่อสู้ของเธอ แองเจล่า คารินี จากอิตาลี ถอนตัวจากการแข่งขันภายในเวลาเพียง 46 วินาทีเท่านั้นของยกแรก
เคลิฟ เป็น 1 ใน 2 นักกีฬาที่ได้รับอนุมัติให้แข่งขันมวยสากลหญิงในปารีส หลังจากที่ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลกหญิงเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ เพราะมีระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ เทสโทสเตอโรน สูงกว่าปกติ
หลังจากได้รับบายในรอบแรกของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ เคลิฟ นักชกวัย 25 ปี ขึ้นชกกับ คารินี่ โดยชกเข้าใบหน้านักมวยอิตาลี ไปได้สองหมัดใน 30 วินาที จากนั้น คารินี ก็เดินไปที่มุมเวทีเพื่อให้โค้ชของเธอจับเฮดการ์ดให้ แต่หลังจากกลับมาต่อยได้สักพัก เธอก็กลับไปที่มุมเวทีอีกครั้งและยุติการชก
คารินี่ ร่ำไห้กล่าวหลังการชกว่า รู้สึกเจ็บจมูกอย่างมาก และพูดกับตัวเองว่าสำหรับประสบการณ์ที่ได้รับแบบนี้ ควรที่จะยุติลง ถ้าหากชกที่อิตาลี ก็จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้แน่ เรื่องแบบนี้มันแย่มาก ฉันหวังว่า พ่อจะไม่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ ฉันคงต้องรักษาชีวิตของฉันไว้เช่นกันในช่วงเวลานั้น
“ฉันไม่ได้กลัว ไม่ได้กลัวการขึ้นเวที ไม่ได้กลัวที่จะชก แต่ครั้งนี้ทุกอย่างต้องจบลง เพราะไม่สามารถแข่งขันต่อได้”
“ตัวฉันหัวใจสลาย” คารินี กล่าวต่อ “ฉันขึ้นสังเวียนเพื่อเป็นเกียรติแก่พ่อของฉัน มีคนบอกฉันหลายครั้งว่าฉันเป็นนักรบ แต่ฉันต้องการหยุดเพื่อ เพราะไม่เคยถูกชกแบบนี้มาก่อน
“ฉันขึ้นสังเวียนและทำหน้าที่ของฉันในฐานะนักมวย และพยายามชกโดยไม่คำนึงถึงความขัดแย้งหรืออะไรก็ตาม ฉันต้องการที่จะชนะ หลังจากถูกชกครั้งที่สองที่จมูก ทำให้หายใจไม่ออกอีกต่อไป ฉันไปหาโค้ชและบอกว่า พอแล้ว”
เคลิฟ กล่าวสั้น ๆ ว่า ฉันมาที่นี่เพื่อเหรียญทอง และพร้อมจะสู้กับใครก็ได้ ฉันสู้กับพวกเขาทั้งหมด
กรณีนี้ รีม อัลซาเล็ม ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง แสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทาง X หรือ ทวิตเตอร์ ว่า คารินี่ ได้ทำตามสัญชาตญาณของเธออย่างถูกต้อง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางร่างกายของเธอ เพราะไม่ว่าจะเป็นเธอหรือนักกีฬาหญิงคนอื่นๆ ไม่ควรเผชิญกับความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจ
เรื่องดังกล่าวร้อนไปถึง จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นสุภาพสตรีหญิงคนแรกของประเทศ ระุว่า ในความคิดของฉัน นักกีฬาที่มีลักษณะทางพันธุกรรมของผู้ชายไม่ควรเข้าร่วมการแข่งขันของผู้หญิง และไม่ใช่เพราะคุณต้องการเลือกปฏิบัติกับใคร แต่เพื่อปกป้องสิทธิของนักกีฬาหญิงที่จะสามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกัน
“เมื่อวานนี้ ฉันรู้สึกตื้นตันมากเมื่อ คารินี่ เขียนข้อความว่า ‘ฉันจะสู้’ เพราะความทุ่มเท ความคิด และลักษณะนิสัย ย่อมมีส่วนสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน แต่การแข่งขันบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกันก็มีความสำคัญเช่นกัน และจากมุมมองของฉันแล้ว มันไม่ใช่การแข่งขันที่เท่าเทียมกัน”
ก่อนการแข่งขัน คณะกรรมการโอลิมปิกสากลถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการอนุญาตให้ทั้งเคลิฟและหลิน ยู่ติงจากไต้หวัน เข้าร่วมการแข่งขันในประเภทหญิงในโอลิมปิกครั้งนี้
โดย หลิน ยู่ ติง นักมวยชาวไต้หวัน ซึ่งถูกริบเหรียญทองแดงในการแข่งขันชิงแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว หลังจากไม่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติทางเพศ จะขึ้นชกในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
เรื่องนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ระบุว่า นักมวยทั้งหมดในปารีส “ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์คุณสมบัติและการเข้าร่วมการแข่งขัน”
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มาร์ค อดัมส์ โฆษก IOC กล่าวว่า นักกีฬาเหล่านี้เคยแข่งขันมาหลายครั้งแล้วเป็นเวลาหลายปี อีกทั้งก็ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ก็เข้ามาแข่งอย่างกะทันหัน แต่เคยชกตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ในโอลิมปิกเกมส์ ที่โตเกียว
อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 2023 ที่ผ่านมา ทั้ง เคลิฟ และหลิน ยู่ ติง ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมมวยสากลนานาชาติ (IBA) แต่ในโอลิมปิกนั้น IBA ได้ถูกยกเลิกสถานะการเป็นองค์กรควบคุมดูแลกีฬาระดับโลก โดย IOC ดูแลแทน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา IBA เพิ่งจะแถลงว่า เหตุที่ เคลิฟ และหลิน ยู่ ติง ถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก “เพื่อรักษาความยุติธรรมและความซื่อสัตย์สูงสุดของการแข่งขัน”
โดย IBA แถลงว่า ทั้งคู่ไม่ได้เข้ารับการตรวจฮอร์โมนเพศชาย แต่เข้ารับการตรวจแยกที่เป็นที่ยอมรับ โดยรายละเอียดยังคงเป็นความลับ
“การตรวจนี้ชี้ชัดว่านักกีฬาทั้งสองคนไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่จำเป็น และพบว่ามีข้อได้เปรียบเหนือนักกีฬาหญิงคนอื่นๆ” IBA ระบุ
สำหรับ เคลิฟ และหลิน ยู่ ติง เข้ารับการตรวจในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่อิสตันบูล 2022 และอีกครั้งในปี 2023 ถึงแม้ว่า หลิน จะไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินตัดสิทธิ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา แต่ เคลิฟ ได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว