เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศว่าไม่สามารถจูงใจหรือชี้ชวนบุคคลให้สมัครเป็น สว. ได้ ว่า เรื่องนี้ต้องแยกให้ชัดว่า กกต. กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ วันนี้มีความเคลื่อนไหวจาก กกต. 2 ชุด ชุดแรกเป็นการออกระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว.
โดยระเบียบนี้ ตนอ่านแล้วก็สบายใจว่าสอดคล้องกับที่ประธาน กกต. เคยพูดไว้ว่าการรณรงค์เชิญชวนคนไปสมัคร สว. ของคณะก้าวหน้าไม่ผิดกฎหมายอะไร เพราะก็ทำแบบเดียวกับ กกต. คือเชิญชวนคนไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ตัวระเบียบนี้ก็ออกมาชัดเจนว่าสามารถมีผู้ช่วยแนะนำตัวได้ ซึ่งคล้ายกับผู้ช่วยหาเสียงในกรณีของ สส.
“ในส่วนของระเบียบไม่ได้มีปัญหาอะไร อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องการแนะนำตัวทางออนไลน์ แต่ภาพรวมตอนอ่านระเบียบ เราก็รู้สึกว่าไม่ได้มีปัญหาหรือกระทบกับแคมเปญ โดยเฉพาะแคมเปญ สว.ประชาชนของคณะก้าวหน้านะคะ” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกัน กกต.ก็ออกประกาศโพสต์ในเฟซบุ๊กอีก ระบุชัดเจนว่าการรวมกลุ่มการแสดงตัวในหน้าเว็บไซต์ไม่ถูกต้อง กกต. เก็บข้อมูลไว้แล้ว มีการกล่าวในลักษณะว่าให้หยุดการกระทำ หากไม่หยุดจะถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งหากเอาให้ชัดคือ “ไม่ใช่แคมเปญของคณะก้าวหน้า” แต่ กกต.กำลังพุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ Senate 67 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของภาคประชาชน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคณะก้าวหน้า เพียงแต่เวลาเรารณรงค์ให้ประชาชนลงไปสมัคร สว. เราก็เเนะนำว่าให้ไปแสดงตัวในเว็บไซต์นี้ เพราะเป็นข้อมูลเปิด (Open source) ให้ประชาชนเข้าไปดูได้ว่ามีใครบ้าง เพื่อให้ประชาชนทำการบ้านไปก่อน ถือเป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน
“เมื่อ กกต. โพสต์เฟซบุ๊กแบบนี้ คำถามแรกก็คือแม้จะไม่ได้กระทบอะไรกับคณะก้าวหน้า แต่ กกต.ใช้อำนาจอะไร เพราะในระเบียบของ กกต. ที่ออกมาในวันเดียวกัน ไม่มีข้อไหนเลยนะคะที่บอกว่าห้าม Senate 67 ไม่สามารถตีความได้เลยว่าเว็บไซต์ Senate 67 ผิดระเบียบข้อไหน แล้วทำให้ตั้งคำถามได้ต่อไปว่า กกต. เอาอำนาจใหม่มาบังคับใช้” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวอีกว่า เราคงต้องถาม กกต. ไปให้ดังๆ ว่าผิดข้อไหน เพราะในระเบียบไม่ได้ห้าม แต่กลับมาประกาศออกเฟซบุ๊ก
“ดิฉันก็ไม่รู้ว่าโพสต์ทางเฟซบุ๊ก มันมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายได้อย่างไร ถึงแม้จะเป็นโซเชียลมีเดียของ กกต.ก็ตาม เรื่องนี้ดิฉันคิดว่า กกต. ต้องมีความตอบที่ชัดเจน และที่สำคัญที่สุด กกต.เองมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง หรือสรรหาผู้มีตำแหน่งทางการเมืองทุกครั้งไม่ใช่หรือ Senate 67 ไม่ได้เข้าข้างใคร เป็นเว็บไซต์ที่ใครประสงค์จะสมัครเป็น สว.ก็เข้าไปเสนอตัวได้ทั้งหมด มีแต่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ถ้า กกต.บอกว่าผิดกฎหมาย ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้เป็นการจงใจทางการเมืองแล้วนะคะ” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว
นางสาวพรรณิการ์ ตั้งคำถามว่ามีความกังวลอะไรหรือไม่ กลุ่มทางการเมืองใดที่จะได้ประโยชน์จากเว็บไซต์นี้ จึงมีความพยายามที่จะขัดขวาง กลายเป็นว่า กกต.เองหรือไม่ ที่พยายามเล่นการเมืองกับเรื่องนี้
เมื่อถามว่าเป็นการตัดตอนคนที่ประสงค์จะลงสมัครหรือไม่ นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ตนได้ยินข่าวลือมาว่ามีความกังวลมากเรื่อง สว.สีส้ม ตนก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสีส้มคืออะไรกันแน่ แต่มีความกังวลกันว่าเดี๋ยวจะได้มาเยอะและพยายามหาช่องทางที่จะสกัดกั้น โดยการให้ใบแดงกับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น มันจึงเกิดความพยายามอะไรประหลาดๆขึ้นมา เพื่อจะให้สิ่งถูกกฎหมายแกเป็นสิ่งผิดกฎหมายให้ได้ พร้อมย้ำว่าการรณรงค์ของคณะก้าวหน้าก็ยังดำเนินต่อไป เพราะไม่มีอะไรผิดกฎหมายอยู่แล้ว เป็นเพียงการเชิญชวนให้ประชาชนไปสมัคร และหาก Senate 67 ผิด กกต. สามารถมีระบบรองรับให้ประชาชนเข้าไปดูข้อมูลผู้สมัครได้หรือไม่ เพราะเห็นว่ามีการคาดการณ์ว่ามีผู้สมัคร 300,000 คน