เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ ว่า หลังจากที่หลายพรรคการเมือง ได้ยื่นและเตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมทางการเมืองต่อสภาผู้แทนราษฎร นั้น ตนขอสนับสนุนร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ ร่างพระราชบัญญัติ สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …ที่ได้เสนอต่อสภาไปแล้ว ซึ่งเห็นด้วยกับการสร้างความปรองดองในบ้านเมือง ให้เดินหน้าร่วมมือกันพัฒนาประเทศ เพื่อให้การเมือง เศรษฐกิจและสังคมมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า แต่ก็ยังคงมีบางพรรคที่เสนอร่างกฎหมาย รวมการยกโทษให้กับคดีม.112 เพราะมองว่าเป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง นายธนกร กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยเราไม่เคยที่จะเกิดการทำผิดละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันฯอยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งชาติอยู่แล้ว และ สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ก็พบว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีบางพรรคการเมืองรุ่นใหม่ ออกมาแสดงความเห็นพาดพิงล่วงละเมิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตน จึงขอออกมาพูดย้ำให้ชัด ถึงหลักการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ว่า การจะนิรโทษกรรมทางการเมืองใดๆ ก็แล้วแต่ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ต้องไม่เหมารวมคดีที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย และสมควรที่รัฐสภา และประชาชนคนไทยทั้งชาติจะต้องออกมาปกป้องเทิดทูนให้คงไว้เป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งประเทศ อีกทั้งมองว่า การนิรโทษกรรมจะต้องไม่รวมคดีทุจริตคอรัปชั่นเพราะเป็นคดีอาญาที่บั่นทอนทำลายความมั่นคงของชาติ
“ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยอยากจะออกมาพูดเพราะรู้ดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในใจคนไทยอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องพูด แต่ก็มีบางพรรคที่ออกมาแสดงความเห็นให้ข้อมูลบิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน ผมจึงต้องขอออกมาพูดและย้ำให้เกิดความชัดเจนว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายมีที่ไว้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นประมุขของชาติ เป็นความมั่นคงของประเทศ จึงขอคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับทุกร่างพ.ร.บ.ที่พรรคก้าวไกลเสนอให้นิรโทษกรรมกับผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรงเรื่องสถาบัน และเชื่อว่าคนไทยทั้งชาติไม่ยอมรับแน่นอน“ นายธนกร กล่าว