เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2566 น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส หรือ พลอย ผู้ต้องหาคดี ม.112 ซึ่งขณะนี้หลบหนีอยู่ในประเทศแคนาดา อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์@youaretofuu ระบุว่า เราเคยเป็นหนึ่งในเด็กที่บุ้งเอามาดูแลเหมือนหยก รู้จักกันตั้งแต่สมัยอยู่นักเรียนเลว ตอนนั้นที่บ้านเรามีปัญหาทำให้ไม่มีบ้านอยู่+โดนคดีมันต้องมีผปค บ.มาเป็นผู้ปกครองแทนพ่อแม่ที่ดูแลเราไม่ได้ บุ้งก็รับปากเรากับแม่เราว่าจะดูแลเราอย่างดี
บุ้งดูแลเราอย่างดีในช่วงแรกที่อยู่ด้วยกัน เรายังคงอยู่กับบุ้งเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน บ้านก็ไม่มีให้กลับ ตอนนั้นเราเริ่มสัมผัสได้ถึงความรุนแรงในบ้านที่อยู่กับบุ้ง การถูก child grooming การโดนมินิพูเลท
ตัวโต บุ้งมักจะชอบดูแลเด็กทีมีปัญหากับที่บ้านหรือมีปัญหาในชีวิตและมีแสง บุ้งจะรับเด็กมาดูแล อาสาเป็นผปค และค่อยๆใช้ประโยชน์จากเด็กคนนั้น เรากับเพื่อนโดนเอาผลงานการเคลื่อนไหวไปขอทุนเคลื่อนไหว แต่ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบุ้งได้
เรื่องการใช้ความรุนแรงของบุ้งกับเราและเพื่อนๆ เขาทำเหมือนที่ทำกับยามหน้าเพื่อไทย ตอนโมโห เขาจะใช้อารมณ์ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว ด้อยค่า ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ตามสไตล์มินิพูเลท ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เราโดนมินิพูเลทจนทุกวันนี้ยังกลับมาใช้ชีวิตยาก
บุ้งชอบให้เด็กออกมาเคลื่อนไหว เทคแอคชั่นแรงๆ โดยบุ้งบอกกับเราว่าเรายังเด็ก ต่อให้โดนคดีก็ยังไม่โดนหนักเพราะยังมีศาลเยาวชน และเด็กถ้าเจอความรุนแรงเช่น ตำรวจจับ บลาๆ จะเป็นข่าวง่าย ขอทุนง่าย ไวรัลง่ายกว่า แล้วบุ้งอ้างว่าจะซัพพอร์ตน้องๆอยู่ข้างหลังแทน
จนเริ่มทำทะลุวัง เราโดนหนักมากขึ้น บังคับให้เราออกไปทำไรเเรงๆ แต่ตอนนั้นเราบอบช้ำจากการเคลื่อนไหวมามากแล้ว เหนื่อยโดนคดี เราบอกว่าสภาพจิตใจเราไม่ไหว ไม่อยากทำ ก็โดนปิดประตูใส่หน้า อยากจะหนีก็ไม่ได้ เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว
เราลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเคลื่อนไหว เงินก็ไม่มี ครอบครัวก็ทิ้ง ตอนนั้นเราคิดว่าเราต้องพึ่งพาแค่บุ้งเท่านั้น สุดท้ายหลุดออกมาได้เพราะเพื่อนรอบตัวให้ความช่วยเหลือ เป็นผู้ปกครองให้แทน จนปัจจุบันเราเป็นผู้ลี้ภัย 112 อยู่ต่างประเทศ เราก็ยังโดนเขาโจมตีในขบวนเสียๆหายๆอยู่เรื่อยๆ
ทั้งกล่าวหาว่าเรายักยอกเงิน หนีคดี ขโมยของ ตอแหล โดนแช่งให้ตายระหว่างลี้ภัย บางคนก็เกลียดเราจริงๆไปแล้วก็มี เรารู้มาเสมอว่าเรามีปัญหากับหลายฝ่ายในขบวน เรื่องหลายๆเรื่องที่เราอยากคุยเพื่อคลี่คลาย ขอโทษ ก็ไม่มีโอกาสได้ทำเพราะเรายังโดนโจมตีอยู่ตลอดเวลา
ควรมีการถกกันเรื่องนี้สักที เด็กกับการออกมาเคลื่อนไหวเนี่ย เด็กไม่ได้เจอแค่การคุกคามจากรัฐ ครอบครัว สังคม แต่อาจจะโดนขบวนเหี้ยๆทำร้าย โดนขูดรีดความเป็นเด็กโดนมินิพูเลท คนที่ได้รับผลกระทบก็คือตัวเด็กเอง มันส่งผลกับการใช้ชีวิตของเด็กระยะยาวมาก นี่ยังเป็นซึมเศร้าอยู่เลย
เลิกด่าหยก เด็กเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ คนโดนมินิพูเลทมันไม่รู้ตัวหรอก หยกเจอความรุนแรงมามากตั้งแต่ติดคุก ทั้ง cyber bullying โดนคดี สังคมเฮงซวย ต้องมาเจอกลุ่มทะลุวัง หยกเหมือนกระจกสะท้อนตัวบุ้ง หยุดโจมตีเด็กได้ หันมาสนใจอะบิ้วเส้อกันเยอะๆ ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่
ช่วยเหลือและรับฟังความต้องการของหยก หยุดให้แสงหรือโทษคนที่กำลังโดนมินิพูเลทก่อน มันละเอียดอ่อนทั้งตัวของเหยื่อและคนมินิพูเลทเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแต่ละวันเหยื่อเจอคำพูด ถูกปฏิบัติแบบไหนมาบ้าง อะไรคือครสที่แท้จริง หัวมันปั่นป่วนไปหมดเพราะการมินิพูเลท ใช้ความรุนแรงและแก๊สไล้
เราพยายามสรุปเรื่องราวตลอด 2 ปีที่อยู่กับบุ้ง จริงๆมันมีมากกว่านั้นแต่กลัวทวิตยาวเกิน แต่อย่างนึงที่เพื่อนเราเคยถูกมินิพูเลทบอก การที่ผู้ถูกกระทำหรือตัวเด็กยังอยู่ในวังวนความรุนแรง โดนมินิพูเลท แปลว่า abuser ประสบความสำเร็จ #ทะลุวัง