หน้าแรกการเมือง'ก้าวไกล' เปิดทางให้ 'เพื่อไทย' เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล พร้อมชงชื่อแคนดิเดตเป็นนายกฯ ด้านด้อมส้มภูเก็ตหอบ สะตอ ให้กำลังใจ

‘ก้าวไกล’ เปิดทางให้ ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล พร้อมชงชื่อแคนดิเดตเป็นนายกฯ ด้านด้อมส้มภูเก็ตหอบ สะตอ ให้กำลังใจ

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 ที่พรรคก้าวไกล เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวหลังพรรคก้าวไกล หารือกับพรรคเพื่อไทย โดยเผยว่า จากนี้พรรคก้าวไกล จะส่งไม้ต่อให้กับพรรคอันดับที่ 2 นั้น คือพรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล กับอีก 8 พรรคร่วม โดยพรรคก้าวไกล จะเป็นผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า ในวันที่ 27 ก.ค. 66

อย่างไรก็ตาม นายชัยธวัช ยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ประชาชนได้ลงมติตามเจตจำนง ที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่ในช่วงเวลากว่า 2 เดือน ฝ่ายอนุรักษ์นิยม กลับไม่ยอมให้ พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเอา ม.112 มาเป็นข้ออ้าง ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกล จึงขอโทษพี่น้องประชาช และหลังจากนี้ เป้าหมายสูงสุด แม้ไม่ใช่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่คือ การหยุดสืบทอดอำนาจ

ส่วน ม.112 ที่เป็นเงื่อนไขและอุปสรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรี จะทำให้ 8 พรรคไม่อาจร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย และหลังจากนี้คงเป็นหน้าที่บทบาทของพรรคเพื่อไทยในการพูดคุยจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการหารือเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ต้องรอว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตคนไหนในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า

ส่วนจะมีการถอยร่นเพดาน ม.112 หรือไม่นั้น ชัยธวัช กล่าวว่า ขอหารือกับพรรคเพื่อไทยก่อนยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจน มาด้วยมารยาทที่พักก้าวไกลเปิดท้ายให้พรรคเพื่อไทยเป็นการนำในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนี้จะเป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย ส่วน MOU ที่เคยเซ็นไว้พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการต่อหรือสามารถฉีก MOU ได้แล้วต้องรอ อาจจะมีการเพิ่มพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 เข้ามาก็จะต้องมีการพูดคุย จะมีเงื่อนไขอะไรจะยอมรับได้หรือไม่ ต้องรอการหารือกับพรรคเพื่อไทย

ภายใน 1-2 วันนี้รอการประสานจากพรรคเพื่อไทย ส่วนการนำพรรคลุงเข้ามาร่วมนั้นถือเป็นจุดยืนชัดเจนที่ไม่จำเป็นต้องหารือกับพรรคเพื่อไทย ขออย่าเพิ่งรีบสรุป มีข่าวออกมาจำนวนมากแต่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่ในส่วนของหน้าที่การหาเสียงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และยังไม่มีการหารือถึงตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงยังไม่มีการหารือกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

“สิ่งที่เราได้สัญญากับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราคงไม่สามารถที่จะเสียสัจจะเรื่องนี้ได้” ชัยธวัช กล่าว

ชัยธวัช ยืนยันด้วยว่า การประกาศให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในครั้งนี้ไม่ได้มองว่าเร็วหรือช้าและเป็นการถอยมากเกินไป เจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งมีความชัดเจน แม้วันนี้ไม่สามารถผลักดันพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ ภารกิจสำคัญที่เหลืออยู่คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชนที่หวังจะเห็นการยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วรัฐบาลเดิม

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะเป็นใครก็ได้ ไม่ได้จำกัดเรื่องตัวบุคคล แต่ในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้าพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเสนอแคนดิเดตที่ขึ้นอยู่กับมติของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าหากการเสนอแคนดิเดตพรรคเพื่อไทยแล้วไม่ผ่าน ถือว่าญัตตินั้นตกไปเลยใช่หรือไม่ ชัยธวัชระบุว่า จุดยืนของความก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับที่ 41 เรายังยืนยันว่ามติของรัฐสภารอบที่แล้วขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ชัยธวัชระบุอีกว่า ตอนนี้มีคดีหุ้น ITV และคดีล้มล้างการปกครอง จากนโยบาย มาตรา 112 ซึ่งทั้งสองคดีไม่มีการร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล แต่ประมาทไม่ได้ เห็นได้ชัดเจน ว่าหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้อยู่ในระบบนิติรัฐปกติ และองค์กรอิสระศาลรัฐธรรมนูญก็ถูกตั้งคำถามตลอดเวลา ในแง่ของหลักเกณฑ์ ตามกฎหมาย โดยการมีบทบาทเป็นเครื่องไม้เครื่องมือทางการเมืองให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่ดังนั้นพรรคก้าวไกลไม่ได้ประมาท เราติดตามอยู่

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่ผ่านมา เราเห็นว่าประธานสภาสามารถวินิจฉัยได้ เมื่อก่อนมีความเห็นแตกต่างกันเยอะ แต่ประธานสภาฯเห็นว่าควรให้สมาชิกได้อธิบายถกเถียงกันเต็มที่ และมีมติร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ก็หวังว่ารัฐฐสภาชุดนี้จะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก

เมื่อถามว่า เราถอยมา 2 รอบแล้ว ทั้งตำแหน่งประธานรัฐสภาและรอบนี้ก็ถอยตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้คำนวณสถานการณ์เลวร้ายที่สุดของพรรคไว้หรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่า “ไม่ได้คำนวณอะไรทั้งนั้น เป้าหมายสำคัญที่ยึดกุมไว้ตลอดหลังผลการเลือกตั้งออกมาคือพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามเจตจำนงของมติมหาชนจริงๆ วันนี้ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่พิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญที่สุดที่ต้องยึดกลุ่มไว้ให้ได้คือ ต้องผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่ยุติการสืบทอดอำนาจของผู้รัฐบาลเดิมไม่ได้”

นายชัยธวัช ยังระบุอีกว่า “ถ้ามองย้อนกลับไปพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจเหมือนเดิมที่เราจะตัดสินใจคืนความปกติให้กับประชาธิปไตยให้กับรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่นายกรัฐมนตรีจะมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นหัวหน้าพรรค เราไม่ยอมรับกติกาที่ออกแบบมาไว้เพื่อรัฐประหาร เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลมีแคนดิเดต1 คน หรือมากกว่า 1 คน

แต่เป็นเพราะทุกองคาพยพได้สะท้อนชัดเจนแล้วว่า มีความต้องการอย่างเด่นชัดเปิดเผยว่า ไม่อยากเห็นพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้วยความไม่ต้องการสูญเสียอำนาจทางการเมือง จะด้วยความไม่ต้องการที่สูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่เป็นความต้องการที่ไม่อยากจะเห็นนโยบายที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ประชาธิปไตยมากขึ้น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลกลุ่มหนึ่ง เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต นำน้ำพริก และ สะตอพวงใหญ่ มามอบให้ พรรคก้าวไกล ณ ที่ทำการพรรค ย่านรามคำแหง เพื่อเป็นกำลังใจ ให้พรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และ ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัฐ หัวหน้าพรรค ได้เป็น นายกรัฐมนตรี ตามเจตจำนงของประชาชน โดยมี นายชัยธวัช เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจ และ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคก้าวไกล จะพยายามอย่างเต็มที่อย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เสียงของประชาชนสูญเปล่า

Thepoint #Newsthepoint #เลือกตั้ง2566 #นายก #เลือกนายก #รัฐบาลใหม่ #พิธา #ก้าวไกล #หุ้นสื่อไอทีวี #8พรรคร่วมรัฐบาล #เพื่อไทย #ชัยธวัช

Must Read

Related News

- Advertisement -