นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้ ครม. จะพิจารณามาตรการเยียวยา โดยที่เป็นครั้งแรกที่จะมีการพิจารณาการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยตรง 1. ลูกจ้างในระบบที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐบาลจะได้ชดเชยโดยกองทุนประกันสังคม 50% (สูงสุด 7,500 บาท) 2. รัฐบาลจะชดเชยให้เพิ่มเติมรายละ 2,000 3. รัฐบาลจะชดเชยให้นายจ้าง คิดจากจำนวนลูกจ้างคนละ 3,000 บาท แต่ไม่เกิน 200 คน (ไม่เกิน 600,000บาท) 4. ลูกจ้างนอกระบบจะขึ้นทะเบียนเพื่อรับ 2,000 ได้ต่างหาก 5. นายจ้างนอกระบบจะให้ขึ้นทะเบียนผ่านแอป ‘ถุงเงิน’ เพื่อรับ 3,000 บาท
.
ทั้งหมดนี้ให้เดือนเดียว และใช้งบ 7,500 ล้านบาท (ซึ่งเกือบครึ่งมาจากกองทุนประกันสังคม) อย่างที่จั่วหัวครับ ต้องบอกตรงๆว่าถูกทาง แต่น้อยเกินไปมาก น้อยเกินไป ที่จะให้เขาอยู่ได้ (สูงสุด 9,500 บาทน้อยกว่าค่าแรงขั้นตํ่าด้วยซ้ำไป และให้แค่เดือนเดียว)
.
น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับเงินที่มีในมือรัฐบาล น้อยเกินไป ที่จะให้ผู้เดือดร้อนคลายความกังวลว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อเขาจะอยู่อย่างไร ผมประเมินตามข้อเท็จจริงอย่างนี้ครับ ช่วงเดือนที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนได้มากสุด 470,000 ต่อวัน ลดลงมาเหลือ 90,000 เมื่อวานซืน เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 250,000 เข็ม ซึ่งหากตามนี้ เราจะฉีดได้เพียง 30 ล้านโดสใน 120 วัน ห่างไกลจากเป้าหมาย 70% ของประชากร
.
นอกจากนั้น สถานการณ์แพร่เชื้อปัจจุบัน รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ยังติดขัด หมายความว่าเราอาจมีผู้ป่วยเพิ่มเติมได้วัน 3-4,000 คนไปอีกนับเดือน เตียงที่ขาดอยู่แล้วจะเป็นปัญหาหนักขึ้น ดังนั้นการเปิดประเทศตามที่ท่านนายกฯเสนออาจเป็นไปได้ยาก เพราะเงื่อนไขที่ท่านนายกฯได้กำหนดไว้ให้กับภูเก็ตในการเปิด ‘ภูเก็ต sandbox’ คือ 70% ของชาวภูเก็ตต้องได้รับวัคซีน ผมจึงใช้มาตรฐานเดียวกันกับแผนการเปิดประเทศ
.
หากเป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจซึมอีกยาว และอาจจะยาวไปถึงต้นปีหน้า ดังนั้นการประกาศมาตรการออกมารองรับเพียง 1 เดือนจึงไม่สมเหตุสมผล อย่างน้อยควรครอบคลุม 3 เดือน ทุกคนจะได้มั่นใจ และทุกคนจะได้เตรียมตัวและเตรียมใจ และการใช้งบเพียง 7,500 ล้านในการเยียวยา เทียบกับวงเงินกู้ 500,000 ล้าน ผมมองว่าน้อยไปมาก
.
ผมเองอยากประกาศมากกว่านั้นด้วยซ้ำ บอกไปเลยว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อ วัคซีนมีแนวโน้มจะมาช้า (ได้ยินว่า AstraZeneca ของเราจะได้รับส่งแค่ครึ่งเดียวเทียบกับแผนการส่งมอบเดิม เพราะเขาต้องแบ่งให้ประเทศอื่นตามสัญญา) ดังนั้นรัฐบาลควรชัดเจนว่าได้ปรับแผนการจัดหาวัคซีนแล้วอย่างไร และที่สำคัญเตรียมกำลังเงินไว้แล้วเท่าไรเพื่อพร้อมเยียวยาประชาชนให้ได้อีกอย่างน้อย 6 เดือนหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
.
ผมไม่อยากเห็นรัฐบาลออกมาตรการรายเดือนไปเรื่อยๆ ในขณะที่งบประมาณแผ่นดินก็ใช้ไปตามปกติเหมือนไม่รับรู้ว่าเราอยู่ในช่วงวิกฤตที่ต้องรื้อแผนเดิมเกือบทุกแผน เราต้องประเมินความต้องการจากสถานการณ์จริง “เราต้องกล้าพูดความจริง” มิเช่นนั้นผมว่าประชาชนจะหมดหวัง และหมดกำลังใจ หากเราเห็นความเป็นมืออาชีพของรัฐบาล ผมเชื่อว่าทุกคนพร้อมเข้าใจกับทุกข้อจำกัด และพร้อมสู้กับทุกปัญหาครับ
.
“กรณ์”ชี้เยียวยารัฐถูกทางแต่ไม่พอ! แนะออกมาตรการครอบคลุมอย่างน้อย 3 เดือนให้ทุกคนมั่นใจและเตรียมตัวเตรียมใจ
- Advertisement -