วันนี้(10 มี.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องชาวนา ที่ตำบลลาดชิด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการ และ จิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย รวมถึง อัณณพ อารีย์วงศ์สกุล, สุรเชษฐ์ ชัยโกศล, องอาจ วชิรพงศ์ และ อาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย
.
โดยนายเศรษฐา กล่าวหลังรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวนาว่า ตนรู้ว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ในหลุมดำกับดักรายได้ต่ำ ราคาพืชผลการเกษตรไม่ดี ปัญหาพี่น้องไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง พบว่าหลายอำเภอท่วมหนัก ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหา ไม่ให้มีน้ำท่วมน้ำแล้ง เรามีแผนงานที่ทำซับเวย์เพื่อกักเก็บน้ำ และจะมีการขุดบ่อน้ำเพื่อใช้ในหน้าแล้ง รวมไปถึงจะต้องจัดหาปั๊มน้ำเข้ามาให้ชาวนาไว้ใช้สำหรับทำนา
.
นายเศรษฐา ระบุอีกว่า ส่วนเรื่องที่ชาวนาขอให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละ 10,000 บาท นั้น ตนเห็นว่า ราคาเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น หากราคาข้าวแพง แต่ต้นทุนสูงเงินเข้ากระเป๋าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่มาก หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยคือทำให้จำนวนเงินที่สุทธิที่จะเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงเวลาที่เราเป็นรัฐบาล จาก 1,000 บาท ให้เป็น 3,000 บาท โดยจะต้องทั้งเพิ่มราคาข้าว ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลิตผล ไปด้วยกัน
.
นายเศรษฐา ระบุว่า ส่วนเรื่องปุ๋ย พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะใช้ปุ๋นอินทรีย์ โดยจะมีการสร้างผลผลิตในท้องถิ่นมาทดแทนปุ๋ยเคมีที่ราคาขึ้นลงตามราคาตลาดโลก และมีหลายปัจจัยมาควบคุม ซึ่งหากเราใช้ปุ๋ยอินทรีย์เราจะสามารถควบคุมอนาคตของตัวเราเองได้
.
จากนั้น เศรษฐา พร้อมด้วยทีมพรรคเพื่อไทย ร่วมล้อมวงรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับกลุ่มพี่น้องชาวนาที่ได้ทำข้าวหม้อแกงหม้อจากบ้าน พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันในระหว่างรับประทานอาหารด้วย
.
นอกจากนี้ ระหว่างนั่งล้อมวงกินข้าว นายเศรษฐา ยังกล่าวกับชาวบ้านว่า ทานเป็นอย่างเดียว ทำไม่เป็น ไม่เหมือนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ท่านน่ารัก ตนว่าท่านทำกับข้าวเก่งจริงๆ แต่ผมทำไม่เป็นนะครับ
.
- Advertisement -