หน้าแรกข่าวเด่น'ปิยบุตร'ทำนาย!!เลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเหนื่อยกว่าอนาคตใหม่หลายเท่า ไม่มี'กระแสธนาธรฟีเวอร์'แนะรื้อSet Zero ส.ส.บัญชีรายชื่อ

‘ปิยบุตร’ทำนาย!!เลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเหนื่อยกว่าอนาคตใหม่หลายเท่า ไม่มี’กระแสธนาธรฟีเวอร์’แนะรื้อSet Zero ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ”พรรคก้าวไกลกับการเลือกตั้ง 2566″ระบุว่า พรรคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกับการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งครั้งนี้ คือ พรรคก้าวไกล เพราะ ฐานคะแนนของผู้นิยมพรรคก้าวไกลกระจายออกไปทั่วประเทศ ไม่ได้ฝังอยู่ในพื้นที่เขตเลือกตั้งใดเลือกตั้งหนี่งโดยเฉพาะ และส่วนใหญ่ ผู้ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล น่าจะเป็นเรื่องเชิงประเด็น นโยบาย มากกว่าตัวบุคคลผู้สมัครในพื้นที่
.
เมื่อระบบเลือกตั้งเปลี่ยนไปคล้ายแบบปี 2544/2548 ที่ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน โดยแยกการคำนวณขาดออกจากกัน น้ำหนักคะแนนที่ส่งผลต่อจำนวนที่นั่ง สส ก็ไปอยู่ที่เขตเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลอาจได้คะแนนรวมทั่วประเทศไม่น้อยกว่าที่พรรคอนาคตใหม่ได้ในปี 62 แต่เมื่อพิจารณารายเขต อาจมีหลายเขตที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนจำนวนมาก แต่ไม่มากพอที่จะได้ลำดับที่ 1 ในเขตเลือกตั้งนั้น และคะแนนเหล่านั้นทั้งหมดต้องถูก “ทิ้งน้ำ” ไป
.
การเลือกตั้งครั้งที่สองสำคัญกว่าการเลือกตั้งครั้งแรก ครั้งแรก หากไม่ได้ตามเป้า ได้มาน้อย เรายังอธิบายได้ว่าเราเป็นพรรคใหม่ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ผู้คนก็พอจะเข้าใจและเอาใจช่วยต่อไป แต่ครั้งที่สอง หากไม่ได้ตามเป้า คะแนนรวมทั้งประเทศน้อยลงกว่าเดิม สิ่งซึ่งจะตามมา จะมีมากมายสารพัด ไล่ตั้งแต่ ข้อวิจารณ์ว่าแนวทางที่พรรคใช้นั้นผิดพลาด นโยบายหาเสียงก้าวหน้าเกินไป ยุทธศาสตร์การสื่อสารผิดพลาด ความขัดแย้งกันในหมู่แกนนำและผู้สมัคร ส.ส.ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ความท้อแท้สิ้นหวัง เป็นต้น
.
พรรคก้าวไกลต้องพิสูจน์ให้ได้ในการเลือกตั้ง 2566 ว่า ประเทศนี้ สังคมนี้ ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกล
.
พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส.เขต 30 ที่นั่ง เกจิอาจารย์กูรูทางการเมืองต่างบอกว่านี่คือเซอไพรส์ ผู้สมัครที่ไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ไม่เคยลงเลือกตั้ง ไม่มีเครือข่ายหัวคะแนน แต่สามารถใช้ “กระแส” ของธนาธร จนชนะในเขตเลือกตั้งได้ถึง 30 คน ถึงกระนั้น ก็มีบางฝ่ายเห็นว่าส่วนหนึ่งมาจากอานิสงส์ที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับจากกรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ทำให้หลายเขต ไม่มีผู้สมัครทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติ ทำให้ประชาชนหันมาเลือกพรรคอนาคตใหม่แทน
.
การเลือกตั้งในปี 2566 คงไม่มีอุบัติเหตุแบบกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ และทุกพรรคการเมือง “เอาจริง” ไม่มีใครประมาทพรรคก้าวไกลอีกแล้ว การต่อสู้ในระบบแบ่งเขต 400 คน จะเข้มข้นมากกว่าเดิม แต่ละพรรคมุ่งหวังกับการมี สส เขต เพราะ หากไปลุ้นบัตรใบที่สองให้มี สส แบบบัญชีรายชื่อ ก็ไม่มีหลักรับประกันแน่นอนว่าจะได้หรือไม่ ได้มาจำนวนเท่าไร
.
ประกอบกับพรรคเพื่อไทยชูคำขวัญ “แลนด์สไลด์” ย่อมทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล ไม่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์อีกต่อไป แม้พวกเขาอาจเอาใจช่วยพรรคก้าวไกลอยู่ แต่ก็พร้อมที่จะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่า มีความเป็นไปได้มากกว่าที่พรรคเพื่อไทยจะชนะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากไม่เทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย สุดท้าย เราจะไม่ได้เปลี่ยนรัฐบาล ไม่ได้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ปัจจัยเหล่านี้ ย่อมทำให้ การต่อสู้ในเขตเลือกตั้งรอบนี้ พรรคก้าวไกลเหนื่อยกว่าพรรคอนาคตใหม่หลายเท่า
.
พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไร? จะตีโพยตีพายกับการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรเสีย การเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็น 400:100 จะใช้ยุทธวิธีสู้ด้วยกระแสภาพใหญ่แบบเดิม? ครั้งนี้ก็ไม่มีธนาธร และไม่สามารถสร้างกระแสได้เทียบเท่า “ธนาธรฟีเวอร์” แล้ว
.
การเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลมีเดิมพันสำคัญ นอกจากต้องมี ส.ส.เขตให้มากกว่าเดิมแล้ว ยังต้องสร้างโมเดล ส.ส.เขตแบบก้าวไกล ขึ้นมาให้ได้
.
ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ต่อเนื่องมาสู่พรรคก้าวไกล ส.ส.แบบบัญชี่รายชื่อ ไม่ต้องจ่ายเงินให้พรรค ไม่ต้องเป็นหัวหน้ามุ้ง ส.ส. ไม่ต้องเป็นนักการเมืองอาวุโสหลายพรรษามาก่อน ภายหลังเลือกตั้ง มีนาคม 2562 นักการเมืองอาวุโสหลายคนได้ปรารภกับผมว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ คือ “สามล้อถูกหวย” ได้เป็น ส.ส.เพราะธนาธร ระบบเลือกตั้งในปี 2566 เหลือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่มาจากการคำนวณคะแนนสัดส่วนทั่วประเทศ เพียง 100 คน จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง 66 ย่อมหายไปเกินครึ่ง จะให้ได้ 25 ที่ ก็ยากแสนสาหัส
.
ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้เอง ย่อมนำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งกันภายในพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะประเด็นการแย่งชิงเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในลำดับปลอดภัย 1-20 หรือ 1-25
.
ผมมีความเห็นและข้อสังเกตฝากไปถึงแกนนำและผู้มีอำนาจตัดสินใจการคัดเลือกและจัดลำดับผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล Set Zero ลำดับใหม่ทั้งหมด การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต้องไม่ยึดกับลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ตอนปี 62 และต้องไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติให้ลำดับที่ดีแก่ผู้อาวุโสก่อน (ทั้งในแง่อายุ และในแง่เป็น ส.ส.ในปี 62 มาก่อน)
.
สมัยพรรคอนาคตใหม่ เรามีโอกาสในการคัดเลือกผู้สมัครน้อยมาก ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลมีชื่อเสียงและความนิยมมากกว่าเดิม คนมีความรู้ความสามารถอาจเข้ามาเสนอตัวมากขึ้น มีโอกาสไปทาบทามคนมีความรู้ความสามารถหน้าใหม่ๆให้มาลงสมัครได้มากขึ้น การ Set Zero จึงช่วยเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆที่มีความรู้ความสามารถ ช่วยหาคะแนนให้พรรคได้มากขึ้น หากสร้างธรรมเนียม “ผู้มาก่อนได้ก่อน” ขึ้นมา เมื่อผ่านการเลือกตั้งไปหลายครั้ง ก็จะเกิด “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” นั่งทับลำดับต้นๆไว้ตลอด จนเหลือลำดับสำหรับคนใหม่ๆได้ไม่กี่คน แบบที่พรรคเก่าแก่หลายพรรคกำลังเผชิญปัญหาอยู่
.
ผมทราบดีว่า การคัดเลือกและการจัดลำดับผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นประเด็นอ่อนไหว อาจนำมาซึ่งแรงกระเพื่อมภายในพรรค และอาจทำให้ผู้ผิดหวังไม่พอใจแกนนำผู้มีอำนาจในพรรคได้
.
แต่ก็นั่นแหละ การปล่อยเรื้อรัง ไม่ตัดสินใจ มีแต่สร้างผลเสียให้กับทุกฝ่าย ส.ส.ปัจจุบันและผู้แสดงความจำนงขอสมัคร ไม่มีสมาธิในการทำงาน กังวลใจกับอนาคตทางการเมืองของตนเอง นานวันเข้า ก็เปิดทางให้มีการเล่นการเมืองภายในพรรคเพื่อแย่งลำดับบัญชีรายชื่อกัน ในขณะที่พรรคจะไปทาบทามเชิญคนใหม่ๆเข้ามา ก็ไม่อาจทำได้อีก กว่าจะเคลียร์ภายในกันลงตัวแล้วค่อยไปทาบทาม ก็อาจสายเกินไปแล้ว ทำให้พรรคเสียโอกาสการมีคนใหม่ๆที่สร้างกระแส ความนิยม และมีความรู้ความสามารถไป
.
พรรคก้าวไกลต้องเร่งจัดการแก้ปัญหาภายใน แกนนำต้องแสดงภาวะผู้นำ ทั้งภายในพรรค และต่อประชาชน ให้คนในพรรคและประชาชนเชื่อมั่นว่า เขาสามารถฝากความหวังและอนาคตไว้กับคนกลุ่มนี้ได้ รณรงค์หาเสียงอย่างขยันขันแข็งและชัดเจนทั้งในแง่นโยบายและจุดยืน การเลือกตั้ง 2566 เป็นทั้งเดิมพันชะตากรรมของพรรคก้าวไกลและเดิมพันสังคมไทย
.

ThePoint #ข่าวการเมือง #ปิยบุตรแสงกนกกุล #คณะก้าวหน้า #ก้าวไกล #เลือกตั้ง

Must Read

Related News

- Advertisement -