หน้าแรกข่าวเด่น'สร้างอนาคตไทย'ลั่นไม่มีนโยบายแจกเงินแบบไร้สติ!!ขอลุยแก้ไขปัญหาปากท้อง เสริมสร้างอาชีพให้ประชาชน

‘สร้างอนาคตไทย’ลั่นไม่มีนโยบายแจกเงินแบบไร้สติ!!ขอลุยแก้ไขปัญหาปากท้อง เสริมสร้างอาชีพให้ประชาชน

วันนี้(7 พฤศจิกายน 2565) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคกรุงเทพฯ, นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และทีมงานสร้างอนาคตไทย ได้ร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเขตจอมทอง  ซึ่งมีนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีต ส.ส.กทม. เป็นผู้ประสานงานพรรคในพื้นที่
.
นายอุตตม  กล่าวว่า  พรรคสร้างอนาคตไทย เป็นพรรคการเมืองใหม่ ที่ตั้งขึ้นมาเพราะต้องการเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จึงมีการรวมตัวของผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค เพื่อมาช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ ให้พี่น้องประชาชนมีความอยู่ดีกินดีกว่าเดิม และเพื่อปูพื้นฐานสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานเราต่อไป เราจึงขออาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับพ่อแม่พี่น้องและฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีตให้ได้


นายอุตตม ยังกล่าวถึง นโยบายพักชำระหนี้ 5 ปี ว่า จะต้องมีการส่งเสริมความรู้ ส่งเสริมอาชีพเสริมให้กับประชาชนด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือประชาชน และประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน
.
ด้านนายสุรนันทน์ กล่าวว่า  พรรคสร้างอนาคตไทย มีนโยบายต่อสู้กับยาเสพติด ในขณะเดียวกันก็จะทำควบคู่ไปกับการบำบัดผู้เสพด้วย รัฐบาลนี้ได้ปล่อยปละละเลยเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดและหมักหมมปัญหามาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราต้องรีบกำจัด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อนาคตของลูกหลานและประเทศชาติก็จะยิ่งถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ  
.
ขณะที้นายสันติ ได้กล่าวถึงนโยบายกองทุนสร้างอนาคตไทย 300,000 ล้านว่า  จะมาจากการจัดการระบบงบประมาณใหม่ โดยสามารถจัดสรรงบประมาณที่ไม่จำเป็นของรัฐบาลในปัจจุบัน มาเป็นกองทุนช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง ขอยืนยันว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีนโยบายแจกเงินแบบไร้สติ เราต้องการเสริมสร้างอาชีพ เพื่อให้ประชาชนเข้มแข็ง สามารถเลี้ยงชีพได้อย่างยั่งยืน และเมื่อประชาชนเข้มแข็ง ประเทศของเราก็จะเข้มแข็ง และก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
.

ThePoint #ข่าวการเมือง #สร้างอนาคตไทย #ทีมสมคิด #อุตตมสาวนายน #สุรนันทน์เวชชาชีวะ

Must Read

Related News

- Advertisement -