วันนี้(5 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย(สอท.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ”กดบัตรแทนกัน” โดยระบุว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐท่านหนึ่ง ยอมให้คนอื่นกดบัตรแทนกัน ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ศาลฎีกามีคำพิพากษา สรุปว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พิพากษาจำคุก 1 ปี แต่โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 2 ปี จากนี้ศาลก็จะตัดสินเรื่องจริยธรรมร้ายแรงต่อไป หากเห็นว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงก็จะตัดสิทธิตลอดชีวิต เหมือนกรณี อดีตส.ส.ปรีณา ไกรคุปต์ ซึ่งมีบรรทัดฐานมาแล้ว
.
เหตุที่ศาลฎีกา รอโทษจำคุกเพราะเห็นว่า กม.ก็ผ่านไปได้ จึงเห็นว่าพฤติกรรมไม่ร้ายแรง และกม.สามารถผ่านไปมีผลบังคับใช้ได้ คราวต่อไป ก็ถึงคิวส.ส. 3 คน ของพรรคภูมิใจไทย จากจังหวัดพัทลุง ที่กดบัตรแทนกัน กรณีพิจารณากม.งบประมาณ ปี 2563 กรณีนี้ ต่างกับกรณีกดบัตรแทนกัน กรณีพรบ.ร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 เพราะกรณีพรบ.งบประมาณ ต้องส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า ร่างงบประมาณจะตกไปหรือไม่
.
สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า ร่างพรบ.งบประมาณไม่สมบูรณ์ แต่ต้องให้สภากลับมาพิจารณาใหม่ ทำให้งบประมาณล่าช้าไปเป็นเดือน ประเทศไม่ได้ใช้งบประมาณไปเป็นเดือน
.
หากพิจารณาถึงความร้ายแรง และ ความเสียหาย เห็นว่า กรณีนี้ ร้ายแรงกว่ากรณีพิจารณาพรบ.ร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 ส่วนศาลจะกำหนดโทษเท่ากันหรือไม่ ก็ต้องรอศาลฎีกาวางบรรทัดฐาน ผมว่า ทุกคนอยากเห็นการวางบรรทัดฐานของศาลฎีกา รอครับ รอ..รอ..และ..รอ
.
ผมเป็นคนร้องเรื่องนี้ และเคยแสดงความเห็นมาหลายครั้งแล้ว ว่า เรื่องเหล่านี้ เป็นกรณีพิเศษ พิจารณาไม่ยากเลย เพราะพยานหลักฐานเป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ทั้งศาลฎีกา และ ศาลรัฐธรรมนูญควรวินิจฉัยเรื่องนี้ให้เร็ว เพราะเมื่อศาลสั่งให้ส.ส.หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้จังหวัดพัทลุง ไม่มีส.ส.ปฏิบัติหน้าที่มา 3 ปีแล้ว
.
จังหวัดพัทลุงเปรียบเหมือนเป็นจังหวัดนอกเขตการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ยาวนาน เพราะไม่มีส.ส.ทำหน้าที่ ในความเห็นของผม กระทบต่อระบอบประชาธิปไตยมาก แต่จนแล้วจนรอดศาลฎีกาก็ยังไม่ตัดสินเรื่องนี้ คงต้องรอจนครบสมัยโดยจังหวัดพัทลุงไม่มีส.ส. ปฏิบัติหน้าที่ นับเป็นการเลือกตั้งที่เสียเปล่า
*ปล.เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โปรดงดการแสดงความเห็น #พูดแล้วทำ(ได้ลงคอ)
.
- Advertisement -