หน้าแรกสังคม30 องค์กร จับมือร้องนายกฯ อย่าปัดตก!!ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับประชาชน

30 องค์กร จับมือร้องนายกฯ อย่าปัดตก!!ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับประชาชน

วานนี้(21 มิถุนายน) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย ร่วมกับ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และกว่า 30 องค์กร ร่วมนำแถลงการณ์เรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่าปัดตกร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
.
สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าว มีผู้ที่ได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแนบท้ายแถลงการณ์ฯ มาแล้ว ประกอบด้วยองค์กร หน่วยงาน กลุ่มต่างๆ ที่เป็นภาดีเครือข่าย สหภาพ ชุมชน เอกชน นักวิชาการ และบุดคลทั่วไป จำนวนกว่า 700 ราย ร่วมยื่นแถลงการณ์ฯ เพื่อแสดงออก ให้เห็นถึ “ความมีอยู่” ของสิทธิของประชาชน และ “การใช้สิทธิ” ของประชาชนในการ”ปกป้องลมหายใจในอากาศสะอาด”ของตัวเองและของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งปวงในภาพรวม หลังจากที่ได้เคยนำเสนอต่อสู้เรียกร้องในเรื่องนี้มาอย่างยาวนานกว่า 4 ปี นับแต่ปัญหามลพิษทางอากาศและ PM 2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุของการตายก่อนวัยอันควร
.
โดยเฉพาะในประชากรกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ และผู้ทำงานกลางแจ้งประเด็นที่สร้างความกังวลอย่างยิ่งในเวลานี้ คือ มีแนวโน้มที่นายกรัฐมนตรีจะไม่รับรองร่างพรบ.ของ เครือข่ายอากาศสะอาดฯ แต่จะรับรองร่างของพรรคการเมืองบางพรรด หรือมีแนวโน้มว่านายกรัฐมนตรีจะปัดตกร่างกฎหมายอากาศสะอาดทุกฉบับ แล้วให้รัฐบาลยกร่างขึ้นมาใหม่โดยยึดร่างของสภาหอการค้าฯ มาเป็นหลัก!!!!
.
ข้อเรียกร้อง คือ อย่าปัดตกร่างพรบ.อากาศสะอาด ฉบับเครือข่ายอากาศสะอาด ซึ่งเป็นฉบับประชาชนเข้าชื่อ และได้ศึกษาออกแบบมาอย่างรอบด้านในการแก้ปัญหาเชิงระบบ แต่ควรเปิดโอกาสให้ร่างดังกล่าวผ่านเข้าไปสู่การพิจารณาของรัฐสภา เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของ
ประชาชน หากรัฐบาลประสงค์จะยื่นร่างของรัฐบาลเพื่อประกบ ก็ควรเปิดโอกาสให้ร่างทั้งสองฉบับได้เข้าไป พิจารณาร่วมกันรัฐสภาโดยการตั้งกรรมาธิการร่วม เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีโอกาสได้ทำหน้าที่ในการ
.
พิจารณากลั่นกรอง อภิปราย แลกเปลี่ยน และชั่งน้ำหนักเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม เพื่อกฎหมายอากาศสะอาดจะได้มีเนื้อหาสาระที่ครบถ้วน รอบด้าน บูรณาการ สามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
.
นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารควรใช้กลไกของฝ่ายบริหารในสัดส่วนที่เหมาะสม คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ ให้น้ำหนักแก่ความเป็นความตายของประชาชนอยู่เหนือกว่า ผลประโยชน์ของธุรกิจ หากยังมีความเห็นต่างในทิศทางการพัฒนากลไกทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรปล่อยให้กลไกของ รัฐสภาในฐานะผู้แทนของประชาชนได้ทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ มากกว่าจะใช้กลไก ของฝ่ายบริหาร
ข้อเรียกร้องอีกประการหนึ่ง คือ ขอให้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่ให้ความเห็นแก่
.
นายกรัฐมนตรีพิจารณาให้รอบคอบถึงเหตุผลและความจำเป็นของการที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมี อากาศสะอาดให้ประชาชนหายใจอย่างปลอดภัย โดยอาศัยกฎหมายอากาศสะอาด ที่ไม่ใช่แค่มีชื่อหน้าปก แต่แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ต้องเป็นกฎหมายอากาศสะอาดที่มีการจัดการเชิงระบบ เนการบูรณาการ และการจัดการร่วมที่มองเรื่องอากาศทั้งในมิติสุขภาพและมิติสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ตกอยู่ในวังวนเดิม ภายใต้โครงสร้างและระบบการทำงานแบบเดิม ที่ทำให้มีความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน
.

ThePOINT #ข่าวสังคม #พรบอากาศสะอาด #เครือข่ายอากาศ #นายก

Must Read

Related News

- Advertisement -