หน้าแรกข่าวเด่นไม่ใช่พรรคปฏิวัติ แต่ประเทศต้องเปลี่ยนแปลง! ‘พริษฐ์’ มองถูกตีตราสุดโต่งแต่ชนะเลือกตั้ง

ไม่ใช่พรรคปฏิวัติ แต่ประเทศต้องเปลี่ยนแปลง! ‘พริษฐ์’ มองถูกตีตราสุดโต่งแต่ชนะเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาชนแพ้การเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเพราะการปราศรัยของ สส.คนหนึ่งที่ระบุว่าจะนำค่ายทหารในจังหวัดมาเป็นที่ทิ้งขยะ จนทำให้ฐานเสียงเกิดความไม่สบายใจว่า เรื่องผลการเลือกตั้ง อราไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะประเด็นใดหนึ่ เชื่อว่าประชาชนมีปัจจัยแตกต่างกัน ส่วนข้อกังวลนโยบายเรื่องการบริหารจัดการขยะ เราได้รับทราบข้อมูลมา ซึ่งทีมงานของผู้สมัคร สส.เขต 1 ได้ชี้แจงไปแล้ว

ส่วนกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงว่าพรรคประชาชนเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิวัติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิรูป เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน การที่นิยามว่าพรรคประชาชนคือ พรรคปฏิวัติ ตนเองมองว่าการนิยามคำว่าปฏิวัติขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะตีความ หากตีความว่าเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง พรรคประชาชนยืนยันว่าไม่มีเจตนาเช่นนั้น แต่หากยอมรับว่าบางปัญหาในประเทศ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการศึกษา ปฏิรูประบบราชการ การกระจายอำนาจ ก็ไม่ปฏิเสธว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตามการนิยามว่าพรรครัฐบาลเป็นพรรคปฏิรูป ขอตั้งคำถามย้อนกลับไปว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนเองยังไม่เห็นการปฏิรูปโครงสร้างอะไรอย่างเป็นรูปธรรม แม้แต่การปฏิรูปกองทัพ จะใช้คำนี้ยังถูกตำหนิเพราะให้ใช้คำว่าพัฒนาร่วมกันแทน ฝ่ายที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงมักจะพยายามใช้วิธีการตีตราฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นพวกสุดโต่ง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราเผชิญตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งจะเห็นว่าไม่ได้ผล เพราะอดีตพรรคก้าวไกล ได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ดังนั้นจึงไม่อยากเห็นการใช้ยุทธศาสตร์แบบนี้ เพื่อกีดขวางการเปลี่ยนแปลง

……

#Thepoint #Newsthepoint

#พรรคประชาชน #พรรคส้ม #ชนะเลือกตั้ง #พริษฐ์วัชรสินธุ

Must Read

Related News

- Advertisement -