วันนี้ (6 ต.ต. 65) พรรคไทยภักดี นำโดย นายสุขสันต์ แสงศรี โฆษกพรรคไทยภักดี เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดสัมมนาและการใช้จ่ายงบประมาณของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
.
นายสุขสันต์ กล่าวว่า เนื่องด้วย กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ มีการจัดสัมมนาเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการเชิญนักเรียน สภานักเรียน และอาจารย์จากสถานศึกษาต่างๆเข้าร่วมฟังการสัมมนา สาระสำคัญในการจัดสัมมนาระบุหัวข้อว่าด้วยเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกตั้งของไทย แต่ข้อเท็จจริงในการสัมมนาดังกล่าว มีการเชิญวิทยากร คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาบรรยาย โดยมีเนื้อหาสาระของการบรรยายในลักษณะที่พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ คือ การยกเลิกมาตรา 112 และทำให้สถานศึกษาบางศึกษาที่มาร่วมเพราะคิดว่าการสัมมนาของ กมธ.ฯ ดังกล่าวจะเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่เมื่อมาถึงแล้วไม่ใช่ เขาก็เดินทางกลับ
.
เป็นการขอจัดกิจกรรมอีกเรื่อง แต่กลับจัดกิจกรรมอีกเรื่อง จึงมาขอให้ประธานสภาฯ และประธาน ป.ป.ช. ช่วยตรวจสอบดังนี้
.
- สาระสำคัญของการสัมมนาคือเรื่อง การมีส่วนร่วมของประชาชน กับการเลือกตั้งของไทย แต่ในข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นการพูดถึง การแก้ไขมาตรา 112 และพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่ไม่เป็นคุณ ย่อมชี้ให้เห็นว่ากรรมาธิการฯ ขอจัดกิจกรรมอย่างหนึ่ง แต่ใส้ในของกิจกรรมกลับไม่ได้เป็นไปตามที่ระบุขอจัดไว้ในเอกสารโครงการสัมมนา จึงถือเป็นเจตนาแอบแฝงไม่บริสุทธิ์ และเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรง
. - การที่กรรมาธิการฯ ปล่อยปะละเลยให้มีการพูดถึงการแก้ไข ม.112 ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไว้ก่อนหน้าชัดเจนแล้ว พฤติกรรมของกรรมาธิการฯ ย่อมหมิ่นเหม่ต่อการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามจริยธรรมด้วย เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร
. - ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการใช้งบจ่ายประมาณในการจัดสัมมนาในครั้งนี้โดยละเอียด อนึ่ง ประเด็นนี้อยู่ในความสนใจอย่างกว้างขวางของประชาชน และเป็นข้อสงสัยถึงเจตนาและพฤติกรรมของกรรมาธิการฯ ชุดนี้ จึงได้กราบเรียนมายังท่าน เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏแก่สาธารณะ และหากเป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบด้วยจริยธรรมและกฎหมาย ขอให้ดำเนินการให้ถึงที่สุดแก่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาเกียรติภูมิความถูกต้อง และความศักดิ์สิทธิ์ของฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งถือเป็นหนึ่งในอำนาจหลักของประเทศ
.