สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แสดงความคิดเห็นระหว่างร่วมบรรยายประจำปีที่มูลนิธิ Ditchley Foundation เมื่อวันเสาร์ (16 ก.ค.) ระบุว่า จากผลกระทบของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และความขัดแย้งในยูเครน การเมืองในโลกตะวันตกตกอยู่ในความยุ่งเหยิง แบ่งพรรคแบ่งพวกมากขึ้น น่าเกลียดยิ่งขึ้น ไม่ผลิดอกออกผลใดๆ และเติมเชื้อไฟโดยสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบกับทั้งกิจการในประเทศและระหว่างประเทศ
.
พร้อมชี้ว่าปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนของรัสเซีย ควรกกลายเป็นจุดปักหมุดสำหรับการกอบกู้สำนึกแห่งพันธกิจของเรา(ตะวันตก) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของศตวรรษนี้จะมาจากจีน ไม่ใช่รัสเซีย
.
“เรากำลังมาถึงจุดจบการครอบงำทางการเมืองและเศรษฐกิจของตะวันตก โลกกำลังกลายเป็น 2 ขั้วเป็นอย่างน้อยและมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโลกหลายขั้ว” เขาคาดการณ์”แบลร์ กล่าว
.
แบลร์ ยังระบุด้วยว่า จีน ที่ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลก จะแข่งขันกับตะวันตกไม่ใช่แค่เพื่ออำนาจ แต่ต่อต้านระบบของเรา แนวทางบริหารและวิถีชีวิตของเรา โดยปักกิ่งจะไม่ก้าวขึ้นมาเพียงลำพัง พวกเขาจะมีพันธมิตร แน่นอนตอนนี้คือรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่าอิหร่านจะร่วมด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ตะวันออกสามารถมีเงื่อนไขต่างๆ ที่ทัดเทียมกับตะวันตก
.
อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า เหตุการณ์ต่างๆ ในยูเครน แสดงให้ตะวันตกเห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่สามารถพึ่งพาผู้นำจีน ให้มีพฤติกรรรมในแนวทางที่เรามองว่ามีเหตุผลมีผล อย่าเข้าใจผมผิด ผมไม่ได้บอกว่าในระยะอันใกล้ชี้ จีนจะพยายามใช้กำลังยึดไต้หวัน แต่เราไม่สามารถวางนโยบายของเราบนพื้นฐานที่แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
.
‘โทนี แบลร์’ชี้ใกล้ถึงจุดจบ!!ยุคตะวันตกครอบงำการเมือง-เศรษฐกิจโลก ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ตะวันออกมีเงื่อนไขทัดเทียม
- Advertisement -