จากกรณีก่อนหน้านี้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี สร้างความเข้าใจผิดว่ามีการใช้งบประมาณในโครงการดังกล่าวสูงถึง 980 ล้านบาท
.
ล่าสุด ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ทีมงาน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 6 โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า งบประมาณที่ใช้ในการสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีที่เห็นอยู่ ใช้ไปเพียง 80 ล้านบาท ไม่ใช่ 980 ล้านบาท
.
จากกระแสที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้งบประมาณสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี และมีหลายคนบอกว่างบประมาณ 980 ล้านบาทสูงเกินไป ไม่คุ้มค่า ล่าสุดพูดไปจนถึง 1,556 ล้านบาท ทำให้ยิ่งเข้าใจผิดกันใหญ่ วันนี้ผมเลยขอถือโอกาสชี้แจงเรื่องความคุ้มค่า และงบประมาณครับ
.
โครงการพัฒนาคลองช่องนนทรีเป็นการพัฒนาทั้งหมด ทั้งสวนสาธารณะและทางเดินริมคลอง การฟื้นฟูคลอง ระบบไหลเวียนน้ำ คลองช่องนนทรี คลองสาทร และคลองไผ่สิงโต ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบระบายน้ำ และระบบไหลเวียนน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียในคลองที่มีพื้นที่ต่อเนื่อง รวมทั้งควบคุมปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในคลองทั้ง 3 คลองให้สามารถเชื่อมกันได้ทั้งระบบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นงบประมาณตามแผนที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ ส่วนที่ทุกคนเห็นเป็นสวนสาธารณะด้านบนที่แล้วเสร็จใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทครับ นอกจากนี้ ยังมีอีก 10 ประเด็นเข้าใจผิดเกี่ยวกับคลองช่องนนทรี ผมเลยขอถือโอกาสนี้ชี้แจงรายละเอียดครับ
1.ที่เห็นอยู่คือ 80 ล้าน ! ต้องชี้แจงอย่างงี้ครับว่าส่วนที่เห็นคือลานกิจกรรมที่เป็นเพียง 5% ของโครงการทั้งหมด ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท
- ราวกันตก และ skywalk ภาพสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีที่มีราวกันตกทำจากเหล็กข้ออ้อยที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม จริงๆแล้วในช่วงนั้นสวนยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแต่เป็นเทศกาลเราจึงเปิดให้ใช้พื้นที่เป็นชั่วคราว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา แต่ตอนนี้ได้ติดตั้งราวกันตกใหม่ที่ปลอดภัยและสวยงาม และเป็น skywalk ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะ และได้ติดป้ายชี้แจ้งว่าอยู่ระหว่างดำเนินการและใช้เป็นการชั่วคราว
3.การแก้ไขน้ำมีกลิ่นเหม็น จากการเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำที่ตกตะกอน มีการไหลเวียน และในระยะยาวจะใช้น้ำบำบัดจากโรงบำบัดน้ำเสียคลองช่องนนทรี ผลักดันน้ำลงคลอง รวมถึงวางพื้นฐานวงแหวน้ำให้เชื่อมต่อกัน คลองช่องนนทรี-คลองสาธร-สวนลุมพินี-คลองต้นสน-คลองไผ่สิงห์โต-คลองเคย ซึ่งจะช่วยให้น้ำในคลองดีขึ้นทั้งระบบ
4.ขวางทางน้ำ สวนสาธารณะสร้างบนคลอง ไม่กีดขวางทางน้ำ และมีการปรับปรุงท้องคลองที่จะเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ
5.สวนสาธารณะสร้างบนคลอง ไม่กีดขวางทางน้ำ และมีการปรับปรุงท้องคลองที่จะเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ
หลายคนสงสัยว่าในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงการรถไฟฟ้าหรือไม่ และจะไปกระทบกับโครงการคลองช่องนนทรีเดิมหรือไม่ ตอบตรงนี้เลยครับว่า หากในอนาคตมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขึ้นมา ซึ่งมีแนวทางที่จะพัฒนาอยู่แล้ว จะเป็นการสร้างบนเลน BRT เพราะฉะนั้นการสร้างระบบขนส่งมวลชนในอนาคตจะไม่กระทบคลองช่องนนทรีแน่นอน แต่กลับจะเพิ่มให้มีการใช้สวนสาธารณะดังกล่าวมากขึ้น
6.ความเก่งของผู้ออกแบบ หลายๆโครงการในเมืองใหญ่มี อ.กชกร วรอาคม ภูมิสถาปนิกเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งในไทย และต่างประเทศเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งทุกโครงการของ อ.กชกร เป็นการออกแบบเพื่ออนาคต ตอบโจทย์ทั้งทัศนียภาพความสวยงาม และการใช้งานที่คุ้มค่า เช่น สวนจุฬา 100 ปี
7.รถติด ไม่เป็นสาเหตุของรถติดอย่างแน่นอน เพราะตัวสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีสร้างอยู่บนคลอง ไม่กินผิวถนน ไม่ขวางทางจราจรและไม่ทำให้รถติด ในทางกลับกันสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีมีทางเชื่อมต่อให้คนที่ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเดินทางเชื่อมต่อได้มากขึ้น
8.ไม่ใช่แค่คลองช่องนนทรี แต่เป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายคลองอื่น ๆ ด้วย การพัฒนาคลองช่องนนทรีไม่ได้เกิดประโยชน์เพียงแค่ช่องนนทรีเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาโครงข่ายหลักคลองช่องนนทรี คลองสาทร คลองไผ่สิงโต และคลองต้นสน และใช้ท่อแทนคลอง แยกน้ำดีกับน้ำเสียออกจากกัน เพื่อให้น้ำในคลองมีคุณภาพดีขึ้น และน้ำเสียที่แยกจะถูกส่งเข้าโรงบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วไปใช้ประโยชน์ในการรดน้ำต้นไม้ที่สวนลุมพินี
- ผลการศึกษา โครงการคลองช่องนนทรี แท้จริงแล้วเป็นโครงการที่ถูกพูดถึงมานานกว่า 14 ปี โดยเสนอแนวคิดไว้ว่ากรุงเทพฯ ควรมีการพัฒนา คลองช่องนนทรีและคลองสาทร
10.ประโยชน์ที่ได้เพิ่มขึ้น สวนสาธารณะคลองช่องนนทรี เป็นโครงการฟื้นคืนชีวิตคลอง (Canal Revitalisation) สายแรกของเมืองกรุงเทพฯ และฟื้นความสัมพันธ์เมือง-ระบบนิเวศ ด้วยการใช้ความรู้ด้านภูมิสถาปัตยกรรมเมือง (Urban landscape Architecture) ปรับใช้แนวคิดการแก้ปัญหาที่ยึดหลัก ‘เข้าใจ-ประยุกต์-ปรับเปลี่ยน-เลียน-รู้ บทเรียนจากธรรมชาติ (Nature-based Solution)’ เพื่อการออกแบบที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน
.
ทำให้คลองได้ทำหน้าที่ทางนิเวศ มีการปรับปรุงคุณภาพน้ำ เชื่อมการไหลของน้ำ จัดการการไหลให้สัมพันธ์กับทิศทางน้ำขึ้น-น้ำลง เพิ่มศักยภาพคลองในการกักเก็บ ชะลอ ซึม รองรับ และระบายน้ำฝน ฟื้นฟูตลิ่งริมคลองด้วยการปรับใช้โครงสร้างทางชีววิศวกรรม (Bio-engineering ) เพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงฟื้นฟูความสัมพันธ์คนกับคลองให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
.