เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 “บก.ลายจุด” นายสมบัติ บุญงามอนงค์ โพสต์ข้อควมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สมบัติ บุญงามอนงค์ ระบุว่า…
ตอนที่ผมออกมาพูดเรื่อง digital wallet ของเพื่อไทย ฝ่ายสนับสนุนตอบโต้ผมว่า ผมเรียนจบอะไรมา หรือมีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคระดับไหนถึงกล้ามาวิจารณ์
พอนักวิชาการและอดีตผู้ว่าแบงค์ชาติออกแถลงการณ์ 99 คน ฝ่ายสนับสนุนเพื่อไทยก็ออกมาบอกว่าคนพวกนี้เป็นนักวิชาการสลิ่ม ไม่เคยออกมาแย้งสมัยรัฐบาลประยุทธ หรือไม่ก็ตอบโต้ว่านักวิชาการไม่ใช่เถ้าแก่ไม่เคยทำการค้า ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคก็ยังแย้งด้วยเหตุผลที่อ่อนกว่ามาก
บางคนเลยไปว่าจะเกิด Payment Gateway แบบใหม่ระดับโลก พลิกโฉมระบบธุรกรรมที่มีความโปร่งใสแบบทำลายวงการทุจริตได้ แต่แนวโน้มชัดเจนมากว่าถ้าเอา Blockchain มาใช้จะเป็น Private Blockchain แน่นอน แล้วความโปร่งใสจะอยู่ตรงไหน และมันจะมี Node สักกี่ตัว แค่มีคำสั่งปรับแก้ไขมันก็ปรับได้หมดแหละ คือการเอาโมเดล Node ของ Bitcoin มาเทียบกับ digital wallet นี่น่าขำมาก
เมื่อวานผมไป Comment ไว้ในเฟสผู้สนับสนุนเพื่อไทยคนหนึ่งว่าให้ตอบโต้เหตุผลที่นักเศรษฐศาสตร์กังวล แต่ไม่มีใครเลยที่คิดว่าจะเลือกใช้เหตุผลในการตอบโต้นักเศรษฐศาสตร์เหล่านั้น เอาจริงๆ ผมรู้อยู่แล้วว่าไม่มีปัญญา เพราะถ้ามีศักยภาพขนาดนั้นต้องตอบโต้มานานแล้ว ไม่ใช่ท่องอยู่นั่นแหละว่าเชื่อมือพรรคเพื่อไทยโดยอ้างจากผลงานในอดีต คนกลุ่มนี้ใช้ความเชื่อเป็นหลัก ทำให้ความสามารถในการใช้เหตุผลลดลง ในขณะที่ปกติการโต้แย้งในเรื่องอื่นจะพอมีหลักการและเหตุผลอยู่บ้าง แต่ digital wallet นี่ถือว่าเบาหวิว
เมื่อมาถึงตรงนี้ ผมพยายามอ่านใจพรรคเพื่อไทยว่าจะทำยังไงกับโครงการนี้ภายใต้เสียงท้วงติงจำนวนมากและข้อจำกัดและความยากลำบากในการดำเนินการโครงการที่เกิดจากตัวโครงการเอง ผมอ่านว่าเพื่อไทยรู้ตัวว่าอยู่ในภาวะยากลำบากในทางปฏิบัติและรับรู้ข้อท้วงติงที่มีน้ำหนักและมองเห็นความอันตรายจากโครงการนี้ แต่เนื่องจากเป็นนโยบายเรือธงจึงต้องตั้งธงไว้ว่าจะทำให้ได้จึงอยู่ระหว่างการปรับแก้หาทางออกในเรื่องนี้ ไอ้ที่บอกว่าจะพูดจนกว่ามีข้อสรุปนั้นอาจจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องหลักแล้วคือโครงการนี้มีปัญหาและไม่พร้อมออกมาตอบโต้หรือชี้แจงเพราะยิ่งชี้แจงจะยิ่งทำให้เละ การเงียบและนิ่งไว้แล้วโดนคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้
สงสารก็แต่ผู้สนับสนุนเพื่อไทยที่ยืดถือและเชื่อใจพรรคโดยไม่มีคำถามหรือพยายามรับฟังคำโต้แย้งและใช้เหตุผลตอบโต้หากคิดว่ามันทำได้จริง แต่ก็นั่นแหละ พรรคเพื่อไทยยังโต้ไม่ได้ ติ่งแบกที่ไหนจะโต้ได้ ก็เอาแต่ตะโกนว่าคนวิจารณ์เป็นสลิ่ม เฮ้ย…..สมอง
ที่มา https://www.facebook.com/nuling/posts/7246883998657249?ref=embed_post