เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 67 ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดงาน 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ และความคืบหน้านโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต
โดยภายในงานมีนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค , สส. , ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย และบุคลากรของพรรค เข้าร่วมงาน
โดย น.ส.แพทองธาร แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยนว่า ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เราคิดไม่ผิดตัดสินใจถูกต้องที่มีการจัดตั้งรัฐบาลผสม เพราะมีปัญหาที่มากมาย หลังจากที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลได้เห็นถึงปัญหาที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหาร 2 ครั้งใช้เวลาไปเกือบสองทศวรรษ เช่น ปัญหาระบบราชการที่ใหญ่โตเกินไปทำให้การทำงานไม่พร้อม สำหรับการปรับตัวในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และอีกเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือภัยคุกคามที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และเมื่อเวลาผ่านไปเรื่องการคุกคามก็เกิดขึ้นมาคุมเรื่อยๆ
พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์การบริหารมาอย่างยาวนาน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเราเป็นพรรคที่ขึ้นชื่อว่าบริหารงานได้สำเร็จ รวมถึงผลักดันทุกนโยบายให้สำเร็จตามที่ได้พูดไว้มากที่สุดในประเทศไทย ถ้าเราไม่เลือกที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมและเราเป็นแกนนำ คงไม่มีโอกาสที่จะเริ่มแก้ปัญหาต่างๆ ที่สะสมมาเป็นเวลานาน วันนี้มีกฎหมายพยามให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นปัญหาและเป็นอุปสรรคสำคัญมากๆ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพราะนโยบายทางด้านการคลังถูกใช้งานเพียงด้านเดียวมาโดยตลอด และทำให้ประเทศของเรามีหนี้ที่สูงมากขึ้น และสูงเพิ่มมากขึ้นทุกปีจากการตั้งงบประมาณที่ขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมที่จะเข้าใจและไม่ยอมให้ความร่วมมือประเทศของเราจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ลงได้เลย
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ 10 เดือนที่ผ่านมาที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นแกนนำในการบริหารรัฐบาล ได้ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่มีความซับซ้อนยาวนาน จะต้องใช้ความรู้ความเข้าใจจากทุกฝากฝั่งเพื่อแก้ปัญหาให้ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราเสียเวลาไปกว่าสองทศวรรษแล้ว วันนี้เข้าใจว่าการแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ง่ายแต่เรามั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่และมั่นใจว่าเราจะทำให้ได้เต็ม 10 อย่างแน่นอน
ซึ่งด้านเศรษฐกิจวันนี้ต้องเริ่มเติมเงินเข้าสู่ระบบคือ นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เพราะตอนนี้เงินถูกออกจากระบบมากซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทำให้เศรษฐกิจต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน ซึ่งเราได้เพิ่มค่าแรงเป็น 400 บาท จะทำให้ทุกฝ่ายได้ปรับตัว และอยากให้ทุกท่านได้จำไว้ว่าการเพิ่มค่าแรงไม่เคยทำให้ธุรกิจเจ๊ง แต่จะเพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน รวมถึงจะมีการผลักดันเศรษฐกิจทุกมิติไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินเข้าระบบหรือการเพิ่มค่าแรงซึ่งตอนนี้จะมีการนำเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาช่วยด้วย อย่างที่เห็นว่านายกรัฐมนตรีมีการเดินทางไปต่างประเทศมาเห็นรูปธรรมหลายอย่างเกิดขึ้นซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสอย่างมาก ให้กับประชาชนคนไทยเราค่อยๆ เปลี่ยนจากรัฐบาลที่อุ้ยอ้าย ทำงานยากตรวจสอบไม่ได้ เป็นรัฐบาลดิจิทัล วอลเล็ตที่ตรวจสอบได้รวดเร็ว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างทันท่วงที
และอีกสักพักจะมีการเริ่มทำการปรับโครงสร้างของกระทรวง ทบวง กรม เราจะมีการแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับเนื่องจากตัวกฎหมายหลายฉบับมีการใช้มา 20-30 ปี ไม่สามารถเข้ากับหลักเกณฑ์ของปัจจุบันได้ จึงต้องมีการยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัย และเขียนกฎหมายใหม่เพื่อให้ประเทศไทยของเราเป็นฮับการบิน การเงินของอาเซียน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เราเข้าใจถึงปัญหาต่างๆ มากมายและปัญหาความมั่นคงต่างประเทศเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ละเลย เรามีความตั้งใจว่าวันข้างหน้าจะผูกมิตรกับทุกมหาอำนาจ และให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ของการเจรจาเพื่อความสันติ เช่น ปัญหาของเมียนมา ที่ทางรัฐบาลทราบมาตลอดเราไม่ได้ละเลยแต่ช่วยสร้างความปรองดอง และจะช่วยควบคู่กับไปกับเรื่องทางมนุษยธรรม และยังมีข้อสำคัญอีกมากมายที่เราจะทำในอนาคต เราทำทุกอย่างตามนโยบายที่เราเคยวางไว้ และที่เคยบอกกับพี่น้องประชาชนไว้ เรามั่นใจว่าสุดท้ายเมื่อรัฐบาลได้อยู่ครบ 4 ปี มั่นใจว่าพี่น้องประชาชน จะให้คะแนนเราเต็ม 10 อย่างแน่นอน
ทุกอย่างตอนนี้ ฟันเฟืองทุกชิ้นกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อปลายทางของชีวิตประชาชนที่ดีขึ้นในตอนนี้พรรคเพื่อไทยจะต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็งแข็งแรงและมีประสิทธิภาพตอนนี้เราต้องเป็นพรรคที่มีนโยบายที่ดีมีศักยภาพที่ดี มีสส.ที่เข้าใจปัญหาของประชาชน มีรัฐมนตรีที่เก่ง มีนโยบายที่ตอบโจทย์ มีรัฐบาลที่แข็งแรง ซึ่งอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจะเจอเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในอนาคตเราก็จะสามารถทำนโยบายให้สำเร็จได้ ตอนนี้เรามีทีมงานใหม่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทย “เพื่อไทยอคาเดมี่” เพื่อสร้างอนาคตให้กับพรรคเพื่อไทยของเรา
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า เราอยู่ตรงนี้ในนามของพรรคเพื่อไทย ประชาชนคาดหวังในตัวของพวกเราสูง เพราะเราเคยเป็นพรรคที่เคยทำงานประสบความสำเร็จ เมื่อเราจะตั้งรัฐบาลขึ้น ประชาชนจึงมีความคาดหวังกับพวกเรามากเช่นกัน ดังนั้นหน้าที่ของตน คือ อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจในตนเอง ก็เชื่อว่าเวลาที่ประชาชนคาดหวังในตัวเราเรารู้ดีว่าจะสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างไร และความเป็นพรรคใหญ่พรรคเพื่อไทยอยู่มานาน เจอเรื่องราวต่างๆ มากมายทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายและผ่านมาด้วยกันได้ ฉะนั้นการที่คู่แข่งของเราจะสร้างวาทะกรรมต่างๆ ทำให้เราดูเป็นคนล้มเหลว ทำงานไม่เป็น หรือสร้างวาทะกรรมต่างๆให้ดูเหมือนเราผิดคำสัญญากับพี่น้องประชาชน ทำนโยบายไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะต้องพิสูจน์ใช้เวลา ใช้ผลงานและใช้หัวใจที่ทุ่มเทเพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเห็น
นอกจากนี้เรามีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนคือ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเคยถูกบอกว่าคือ 30 บาทตายทุกโรค ซึ่งวันนี้ไม่จริงเราใช้เวลาพิสูจน์ และเป็นนโยบายที่ยังคงอยู่คู่ประเทศและพี่น้องประชาชน ดังนั้นเราจะไม่อยู่ในเกมการเมือง แต่จะใช้อำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีตอบโจทย์ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็น และเราเองทราบดีว่าการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในงานการเมือง เป็นงานที่ต้องใช้ความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นแรงผลักดัน คือ เสียงตอบรับของประชาชนเพื่อผลักดันให้ประเทศดีขึ้น ต่อจากนี้จะมีแต่เรื่องที่ดีขึ้น มีพรรคเพื่อไทยที่ดีขึ้น รัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้น ประเทศที่พัฒนาขึ้น และให้นำประชาชนที่มีชีวิตที่ดีขึ้น