หน้าแรกการเมืองอยากเป็นก็ขึ้นมา!! ‘พิเชษฐ์’ ปะทะคารม ‘ชลน่าน’ เดือด หลังถูกชี้หน้ากลางสภาฯ

อยากเป็นก็ขึ้นมา!! ‘พิเชษฐ์’ ปะทะคารม ‘ชลน่าน’ เดือด หลังถูกชี้หน้ากลางสภาฯ

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม มีนัดลงมติรับรองรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม (กมธ.นิรโทษกรรม)

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้พูดถึงแนวทางที่สมาชิกได้หารือว่า ตัวรายงานประธานได้วินิจฉัยแล้วว่ากรรมธิการทำเสนอต่อสภาเป็นรายงานเพื่อทราบ จะนำถ้อยคำใดมาลงมติ ประเด็นนี้จึงจบไป ประเด็นที่สองข้อบังคับ 105 ถ้ากรรมาธิการมีข้อสังเกตที่จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ นำไปรับทราบหรือปฏิบัติ และนำเสนอต่อสภา ถ้ามีข้อสังเกตต้องลงมติว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะความหมายของคำว่าเห็นด้วยคือสภาเห็นชอบกับการส่งข้อสังเกตไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบหรือนำสู่ปฏิบัติ ถ้าเห็นว่าข้อสังเกตนี้ส่งไปไม่เกิดประโยชน์ใดๆ มีแต่ปัญหา ไม่มีความชัดเจน สภามีมติไม่เห็นด้วยก็จะตกไป ผลสรุปมีแค่นี้ แต่ตัวรายงานยังอยู่ นี่คือวิธีการที่ปฏิบัติมาตลอด 

“การที่เราลงมติว่าจะส่งหรือไม่ส่ง มีผลผูกพันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปแล้ว ถ้าปฏิบัติไม่ได้ต้องแจ้งภายใน 60 วัน ก็จะเป็นข้อผูกมัด ตนไม่เห็นด้วยกับการส่งไปให้รัฐบาล เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ”

ทำให้ นายพิเชษฐ์ โต้กลับว่า แล้วแต่ท่าน จากนั้นสมาชิกในที่ประชุมต่างลุกขึ้นคัดค้านไม่เห็นด้วยกับผลการศึกษาดังกล่าว

จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้ลุกขึ้นประท้วงประธาน ว่า หน้าที่ของท่านประธานคือต้องทำหน้าที่ตามข้อบังคับ 105 มีข้อสังเกตต้องให้สภาลงมติ แต่ท่านให้เสนอญัตติจะเสนอทำไม ท่านก็ถามว่าใครเห็นชอบ ไม่เห็นชอบแค่นี้เอง ถ้าทำไม่ได้เปลี่ยนรองประธานสภาคนที่สองมาแทน

โดย นพ.ชลน่านได้ลุกขึ้นประท้วงแสดงความไม่พอใจ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว และชี้หน้าระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

นายพิเชษฐ์ โต้กลับว่า ไม่ต้องชี้หน้า อยากเป็นก็ขึ้นมา

จากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่เห็นชอบรายงานของกรรมาธิการนิรโทษกรรม ด้วยคะแนน 270 ต่อ 152 เสียง

หลังจากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า แม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน แต่ความไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องธรรมดาในสภาฯ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรถึงต้องเป็นเช่นนั้น เขาไปกินอะไรมา เรามีบทบาทหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ ซึ่งตนเป็นประธานในที่ประชุมก็ต้องควบคุมการประชุม

“การจะทำอะไรต้องมีขอบเขต ไม่ใช่ว่าอยู่สภามานานแล้วจะทำอะไรก็ได้ จะแนะนำอะไรก็ควรค่อยๆ พูดกัน อย่าไปใช้อารมณ์ จะใช้อารมณ์ทำไม แล้วผมประธาน คุณเป็นอะไร จะทำอะไร ผมต้องควบคุมการประชุม” นายพิเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ต้องเคลียร์กันหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า คงไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ตนไม่ได้ถือสา ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ยืนยันว่าในพรรค พท. เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความขัดแย้งกัน ไม่เข้าใจว่าช่วงหลัง เขาเป็นอะไร ไม่เหมือนเมื่อก่อน

…..

#Thepoint #Newsthepoint

#พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน #ชลน่านศรีแก้ว #ปะทะคารมกลางสภา

Must Read

Related News

- Advertisement -