สยบทุกกระแสร้าว!”ธรรมนัส”ยกมือไหว้ขอโทษ”บิ๊กตู่”

0
833

จากกระแสความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธาน เมื่อวานนี้(3 ก.ย.) ที่ชั้นห้อง 6 รัฐสภา ใช้เวลาเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น 
.
โดยพล.อ.ประวิตร มีสีหน้าขึงขัง พร้อมกล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำพรรค พปชร. บางคนจะโหวตคว่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทย แตกคอกันว่า
“ข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง ขอให้ทุกคนรักกัน สามัคคีกัน ถ้าจะทะเลาะกันก็ให้นิดหน่อย อย่าวุ่นวาย เราต้องรวมกันให้เป็นหนึ่งเดียว” พล.อ.ประวิตร ระบุในที่ประชุมพรรค
.
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ถามส.ส.ว่า มีใครอยากจะถามทำอะไรหรือไม่ เพราะอยากตอบ ถามมาได้เลย แต่ไมไม่มี ส.ส.คนใดถาม ก่อนจะย้ำกับลูกพรรคว่า มีใครจะพูดอะไรหรือไม่ ทุกคนก็ได้แต่เงียบ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะจี้ถามไปที่ ส.ส.ภาคใต้คนหนึ่งว่า จะถามอะไรว่ามา ส.ส.คนดังกล่าวจึงถามว่าการโหวตลงมติในวันพรุ่งนี้ (4ก.ย.) จะต้องโหวตอย่างไร พล.อ.ประวิตร ตอบด้วยเสียงขึงขังว่า ให้เป็นไปตามการประชุมคราวที่แล้วเมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้โหวตไปในทิศทางเดียวกันทุกคน 
.
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังยืนยันกับ ส.ส.ว่า “ไม่ต้องการเป็นนายกฯ นายกฯไป ผมก็ไป” และในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประวิตร ยังได้พูดถึงการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระที่ 2 ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ที่จะแก้ระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบว่า “จบแล้ว เราชนะ เราได้เปรียบ”
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังการประชุม ส.ส.พปชร.เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร เดินทางออกจากรัฐสภาไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯในเวลาไล่เลี่ยกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงมูลนิธิฯ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. พร้อมด้วยส.ส.พปชร. ประมาณ 60 คน ซึ่งเดินทางมาถึงก่อนแล้วได้มารอรับ และการมาเคลียร์ใจกันครั้งนี้ ได้มีการเก็บโทรศัพท์มือถือของ ส.ส.ทุกคน
โดย ร.อ.ธรรมนัสได้ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกับกล่าวว่า “ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจ ผมขอโทษ” 
.
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยกมือรับไหว้ ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือทั้งหมด นักข่าวไปเขียนกันเอง ตนเองไม่รู้เรื่อง เป็นเฟคนิวส์ ก่อนจะระบายความในใจด้วยว่า ที่เชิญท่านมา อยากขอความมั่นใจว่านายกฯ จะดูแล และจะทำงานร่วมกับพวกเรา ส.ส.และพรรค พปชร.อย่างไร ตนจึงมาขอความมั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จึงถามว่า มีอะไรที่เราต้องดูแลบ้าง ร.อ.ธรรมนัส  จึงกล่าวว่า “มีหลายเรื่องที่ ส.ส.ไม่สบายใจ ในฐานะที่เราเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล พรรคอื่นขออะไรก็ได้ แต่พวกเราไม่ได้อะไรเลย” 
.
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า “ถ้าโครงการต่างๆ มันถูกกฎหมาย ก็เขียนมาสิ” นอกจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยังได้พูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ อีกว่า “ท่านไม่เคยมาดูแล ไม่ได้เจอ ส.ส.ในพรรคเลย ส.ส.หลายคนก็ไม่เคยได้รู้จักกับท่านเลย” พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบว่า “ถ้าเป็นปัญหาแบบนี้ เราก็จะไปปรับตัวดู” ร.อ.ธรรมนัส จึงกล่าวตอบว่า “อะไรที่ผิดพลาดไป ผมก็ต้องขออภัย แต่สิ่งที่ผมพูดไป พูดในฐานะเลขาธิการพรรคที่ต้องดูแลพรรค ดูแล ส.ส.”
.
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวยืนยันกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่า “ในการลงมติวันที่ 4 ก.ย.นี้ ท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับ แต่รัฐมนตรีบางคนอาจจะได้ไม่เท่าท่าน” ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และประธานวิปรัฐบาล ได้กล่าวเสริมว่า “ของท่านอันดับหนึ่ง” พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบไปว่า “ให้มันเท่าๆ กันดีกว่า”และในช่วงหนึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย ได้พูดกับ ส.ส.พปชร.ว่า “อะไรที่ทำได้ ก็จะทำ อะไรที่ผ่านมา ก็อย่าไปคิด” 
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพบปะกันครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ได้โชว์ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพี่น้อง 3 ป. โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมกอด พล.อ.ประวิตร พร้อมพูดคุยกันอย่างอารมณ์ดีว่า “ถ้า 3 คนอยู่ ก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถ้าไป ก็ต้องไปด้วยกัน ยังมีเรื่องราวของ 3 คนที่คนอื่นไม่รู้อีกเยอะ” พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำด้วยว่า “ถ้าอยู่ เราต้องอยู่กัน 3 คน” ก่อนหันไปกระเซ้า พล.อ.ประวิตร ว่า “ท่านอยากเป็นนายกฯ หรือ” พล.อ.ประวิตร จึงกล่าวตอบทันทีอย่างอารมณ์ดีว่า “จะบ้าหรือ กูไม่เป็นหรอก มึงเป็นนั่นแหละ”
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่นาน พล.อ.ประวิตร เคยพูดกับ ร.อ.ธรรมนัส ที่เข้ารายงานสถานการณ์ต่างๆ ในพรรค ซึ่งมีบางประโยคสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง 3 ป.ว่า “มึงจะให้กูทรยศน้องกูเหรอ”
.
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรค พปชร.เปิดเผยว่า แม้จะเคลียร์ปัญหาภายในกันได้ ก่อนลงมติในวันที่ 4 ก.ย. แต่ประเมินว่าน่าจะมี ร.อ.ธรรมนัสเอฟเฟกต์ เกิดขึ้น เพราะถือว่า ครั้งนี้มีการเคลื่อนไหวแรงมาก และเดิมพันสูง อีกทั้งส.ส.บางส่วนยังไม่พอใจนายกฯ จึงต้องจับตาผลการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเป็นตัวสะท้อนความรู้สึกของบางคนในพรรค ซึ่งคะแนนโหวตให้นายกฯควรจะต้องอยู่ระหว่าง 263 – 270 คะแนน หากต่ำกว่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่
.

#ThePOINT #ข่าวการเมือง #อภิปราย #ซักฟอก #นายกฯ #บิ๊กตู่ #ประวิตรวงษ์สุวรรณ #ธรรมนัส พรหมเผ่า