เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2564 นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย และหัวหน้าพรรคแผ่นดินธรรม พร้อมด้วยนายธีระ ปัดชาเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวพุทธปกป้องพระพุทธศาสนา ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานฯ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ
.
ทั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลและมอบเอกสารเกี่ยวกับกรณีที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติถอดถอนพระสังฆาธิการ จำนวน 3 รูป คือ พระราชปริยัติสุนทร ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา, พระธรรมรัตนาภรณ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระเทพสารเมธี ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะเลขาธิการ มส. ได้แถลงข่าวกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2564 ว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย จึงเป็นที่มาให้สมาพันธ์ชาวพุทธฯ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร
.
โดยขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการ พศ. ในฐานะเลขาธิการ มส. และขอให้มีการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ว่าเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย ถูกต้องชอบธรรมตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่
.
นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในเมื่อ พศ. ได้แถลงข่าวกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตาม พรบ.คณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคมทุกประการ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายชาวพุทธฯ ได้ทำหนังสือขอเอกสารข้อมูลข่าวสารจาก พศ. ในกรณีนี้แต่ไม่ได้รับเอกสารข้อมูลข่าวสารตามที่ร้องขอแต่อย่างใด จึงขอร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ ได้ตรวจสอบการดำเนินการของ พศ.
.
รวมถึงเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องว่ากระบวนการถอนถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูปนั้นถูกต้องชอบธรรมตามที่ พศ. กล่าวอ้างจริงหรือไม่ เนื่องจากการถอนถอนพระสังฆาธิการจากตำแหน่งหน้าที่เป็นบทบัญญัติเพื่อลงโทษแก่พระสังฆาธิการผู้ละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ต้องมีการโจท มีการตั้งกรรมการสอบสวน ต้องดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
.
สำหรับในกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ยังไม่ปรากฎเอกสารหลักฐานหรือขั้นตอนกระบวนการใดๆ ทั้งการโจทหรือร้องเรียน การให้ผู้ถูกกล่าวหามาให้การ หรือการตั้งองค์คณะพิจารณา นำมาซึ่งความเคลือบแคลงสงสัยคาใจในหมู่ชาวพุทธ และศิษยานุศิษย์ของพระสังฆาธิการที่ถูกถอดถอนเป็นอย่างยิ่ง นำมาสู่ความแตกแยกรำส่ำระส่ายในสังฆมณฑล
.
นายธีระ ปัดชาเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวพุทธปกป้องพระพุทธศาสนา กล่าวว่า “ขอให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 รูป ได้โปรดปฏิบัติตามพุทธโอวาท เพราะหากปล่อยให้การดำเนินการที่อาจผิดหลักพระธรรมวินัยเกิดขึ้น และกลายเป็นแนวปฏิบัติต่อไป พระสังฆาธิการทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล หรือเจ้าอาวาสทุกวัดทั่วประเทศ ก็อาจถูกปลดถูกถอดถอนกลางอากาศได้โดยไม่ต้องมีการโจทหรือการสอบสวนใดๆ คณะสงฆ์จะต้องอยู่กันด้วยความหวาดผวาว่าภัยจะมาถึงตัวเมื่อใด นำความซึ่งความพินาศต่อการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง”
.
- Advertisement -