เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2568 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม
น.ส.ศศิธร ประสิทธิ์พรอุดม ส.ก.เขตพระนคร พรรคประชาชน ยื่นญัติด้วยวาจา เรื่องขอให้กรุงเทพมหานครตรวจสอบระบบความปลอดภัยของอาคารสถานประกอบกิจการโรงแรมและสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้าใช้บริการ
“ต้นเหตุของเพลิงไหม้จะอยู่ที่ชั้น 5 ห้อง 511 ซึ่งเหตุการณ์ ณ วันนั้นมีผู้เข้าพักทั้งหมด 75 คน โดยเรายังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ซึ่งห้องที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ไหม้หมด ณ วันนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ใช้เวลา 20 กว่านาที ในการดับเพลิง ซึ่งรถดับเพลิงใช้น้ำในการดับเพลิง
ผลกระทบของเหตุการครั้งนี้ ทำให้มีผู้สียชีวิตทั้งหมด 5 คน บาดเจ็บ 3 คน ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 คน เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติทั้งหมด น.ส.ศศิธร กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้และที่ตนได้สอบถามอปพร. สปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ถือว่าเหตุการนี้เป็นกรณีศึกษา และอาจจะมีข้อแนะนำให้กับท่านผู้ว่าฯอยู่ประมาณ 8 ข้อด้วยกัน
ข้อที่ 1 อยากให้โรงแรมทุกขนาดมีการติดสปริงเกอร์ เพื่อลดความเสียหายจากความร้อน และความเข้มข้นของควันไฟ ข้อที่ 2 อยากให้ทุกโรงแรมขนาดเล็ก มีบันไดหรือไฟแบบบันไดลิง เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และหลีกเลี่ยงการกระโดดตึก ซึ่งจะมีผลต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ข้อที่ 3 อยากให้มีการติดไฟบริเวณโถงทางเดินห้องพัก เพราะกรณีมีเหตุควันลอยก็ทำให้ไม่เห็นป้าย Exit ไม่เห็นเลยว่าตรงไหนคือบันได้หรือไฟ ก็อยากให้ติดไฟบริเวณโถงทางเดินเหมือนเครื่องบินอย่างนี้ เขาจะได้ทราบว่าเขาจะได้ไปในทิศทางไหน
ข้อที่ 4 อยากให้มีการฝึกซ้อมหนีไฟมากกว่า 1 ครั้งต่อปี ดิฉันทราบว่ากทม.มีมาตรการป้องกันอัคคีภัยทั้งในระดับกรุงเทพมหานคร และระดับเขต แต่ดิฉันอยากแนะนำว่า อยากให้มีมากกว่า 1 ครั้งแต่ปี และไม่จำเป็นต้องโฟกัสแค่เพียงเทศกาลปีใหม่ ลอยกระทง ตรุษจีน ก็คืออย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง
ข้อ 5 อยากให้แผนผังแต่ละชั้นของโรงแรงที่ระบุ ทางเดินหนีไฟ บันไดหนีไฟมีขนาดใหญ่ ส่องกว่างชัดเจน ติดตั้งในจุดที่สามารถเห็นชัด
ข้อ 6 อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหน้างาน เวลาที่เกิดเหตุไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเขต อปพร. สถานีดับเพลิง สปภ. มีแปลนของโรงแรม เพราะว่าโรงแรมทุกวันนี้เป็นคีย์การ์ดหมด ก็อาจจะทำให้หน่วยงานอาสา ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที
ข้อ 7 อยากให้ทุกโรงแรมมีพื้นที่ระบายควัน เพราะอย่างกรณี ดิ เอ็มเบอร์ อยู่ฝั่งถนนตานี ห้องพักเปิดกระจกไม่ได้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งห้องพักเปิดกระจกได้ ซึ่งถ้าสามารถระบาดควันออกมา และลดความหนาแน่น ก็อาจจะทำให้ปริมาณผู้เสียชีวิตลดลง เพราะผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่สำลักควันหมดเลย
ข้อ 8 อยากให้ ทุกสำนักงานเขตมีอุปกรณ์มีแผนป้องกันเหตุอัคคีภัยเช่นกัน เพราะจากที่ตนไปประชุมมา ก็ไม่มีสปริงเกอร์ เครื่องตรวจจับควันไฟ ไม่มีทางหนีไฟ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ต้องเรียนว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ โรงแรมที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง เมื่อไปไล่ดูใบขอนุญาตต่างๆ หรือ โรงแรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาตก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากกว่านี้ ก็ต้องเรียนว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการทั้งในระยะสั้น คือ การเข้าไปตรวจ และระยะยาว คือ ข้อบัญญัติต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมที่เกิดเหตุ ผมเชื่อว่าปัญหาหนึ่งคือวัสดุในอาคารที่เกิดควันมาก ซึ่งโรงแรมขนาดเล็ก ยังไม่ได้มีการควบคุมด้วยกฎหมายอยู่ ก็คงต้องเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียน เอาไปปรับในแง่ข้อบัญญัติกฎหมายต่างๆ ส่วนในระยะสั้น ก็เป็นการเข้าไปกำกับดูแลอย่างเช่นที่ท่านสมาชิกเสนอ ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ และได้มีการสั่งทุกเขตให้ดำเนินการอยู่
“ก็อยากมีเรื่องเล็กๆ ที่อยากแบ่งปันให้พวกเราฟังว่า อย่างน้อยก็มีเรื่องดีอยู่ในเรื่องร้าย คือ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนที่ไปติดค้างอยู่บนหลังคาของตึก จำนวน 34 คน ทั้งหมดถูกอพยพด้วยรถกระเช้าของเรา ซึ่งผมเจอนักท่องเที่ยวเขาก็ชื่นชมว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเราทำได้ดี มีประสิทธิภาพ และนำคนทั้งหมดลงมาจากหลังคาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย อีกอย่าง คือ รถทั้งหมดก็เพิ่งได้รับการซ่อมแซมจากงบประมาณที่ทางสภาผ่านให้ไป ทำให้เรามีรถที่มีคุณภาพ สามารถนำผู้ประสบภัยลงจากหลังคาได้ 34 คน”
_____________
#Thepoint #Newsthepoint
#ไฟไหม้โรงแรม #ศศิธรประสิทธิ์พรอุดม #พระนคร
#ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่ากทม