หน้าแรกการเมือง'ศราพงศ์'ซัดน่ารังเกียจ!!กลุ่มคนปั่นกระแสแก้ม.112ใช้เป็นเกมการเมือง ลั่นปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย

‘ศราพงศ์’ซัดน่ารังเกียจ!!กลุ่มคนปั่นกระแสแก้ม.112ใช้เป็นเกมการเมือง ลั่นปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย

นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผู้กล้า-กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการเสนอแก้ไขมาตรา 112 โดยระบุว่า มาตรา 112 ปัญหาอยู่ที่ “กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย” ไม่ได้อยู่ที่ “ตัวกฎหมาย” อย่านำมาใช้เป็นเกมการเมือง “แบ่งแยกแล้วปกครอง” แปลกมั้ยครับ ที่อยู่ ๆ กระแสการเรียกร้องให้แก้ไขมาตรา 112 ก็กลับมาอีกครั้ง ในช่วงจังหวะเวลาที่ปี่กลองการเลือกตั้งเริ่มส่งสัญญาณถี่ขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับจะซื้อใจกลุ่มคนที่ไม่เอามาตรานี้ โดยอาศัยสถานการณ์ม็อบเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำและต้องการให้ยกเลิกมาตรานี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในขณะนี้ ศาลยังไม่มีการตัดสินความผิด “แม้แต่รายเดียว”


สาเหตุที่ผู้ถูกดำเนินคดีติดคุกอยู่ เนื่องจาก ศาลเคยให้ประกันตัวแล้ว แต่จำเลยกลับก่อเหตุซ้ำในลักษณะเดียวกัน ศาลพิเคราะห์แล้วว่าเป็นการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัวอีก ดังนั้น การถูกคุมขังในขั้นนี้เป็นเพียง “การติดคุกในชั้นพิจารณาคดี” หาใช่การถูกจำคุกจากการถูกตัดสินว่ามีความผิดในมาตรา 112 ตามที่มีผู้พยายามบิดเบือนแต่อย่างใด
.
ผมเรียนให้ทราบอย่างนี้ครับ…เนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าว ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมให้กับใคร เพราะทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ผมอยากให้มองที่ “การกระทำของตัวบุคคล” มากกว่า “ตัวกฎหมาย” หากมีการกระทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ผมเห็นว่า ความคิดและการกระทำของคนต่างหากที่มีปัญหา การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่มีใครว่าครับ แต่การดูหมิ่น ด่าทอ หรือกล่าวอาฆาตมาดร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐ มองมุมไหนก็เป็นเรื่องมิบังควร และขัดต่อหลักกฎหมายอย่างแน่นอน
.
มีส.ส.บางคนกล่าวว่ามาตรา 112 ล้าสมัย ไม่ทันโลก ต้องปรับให้เข้ายุคปัจจุบัน ต้องการให้ปรับลดโทษให้น้อยลง พยายามสร้างวาทกรรมว่าผู้ต้องหาคดี 112 เป็นเพียง “นักโทษทางความคิด” ผมถามกลับว่า “คุณเดือดร้อนอะไรกับมาตรานี้ ทำไมต้องเสนอให้ปรับลดโทษ ถ้าคุณไม่ได้คิดจะกระทำความผิดในมาตราดังกล่าว ประชาชนคนทั่วไป ไม่มีใครเดือดร้อนกับมาตรานี้ครับ” แต่ผู้ที่ถูกจับในมาตรา 112 เราเห็นชัดเจนกันอยู่แล้ว ว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงนักโทษทางความคิด แต่บุคคลเหล่านี้แสดงออกและกระทำผิดอย่างชัดเจนโดยมิอาจปฏิเสธได้
.
กฎหมายสามารถปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้ครับ แต่ต้องดูบริบทต่าง ๆ รอบด้าน อย่ามองเพียงด้านเดียว มาตรา 112 สามารถยกเลิกได้เหมือนกับในบางประเทศ ก็ต่อเมื่อกฎหมายนั้นไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ เพราะผู้คนมีความเจริญถึงขั้นที่ไม่มีใครทำผิดกฎหมาย จนกระทั่งในที่สุดก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนั้นไปเองโดยธรรมชาติ แต่ทุกวันนี้ในประเทศไทย ยังมีกลุ่มคนที่ยุยง ปลุกปั่นให้มีการดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง
.
การหยิบยกเอาประเด็นแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 จึงเป็นเพียงเกมการเมืองของคนบางกลุ่ม พรรคการเมืองบางพรรคที่ต้องการแยกเขาแยกเรา ใครเลือกฉันมาทางนี้ ใครเห็นต่างไปทางนั้น ตามหลักการ “แบ่งแยกแล้วปกครอง” ซึ่งจากการใช้วิธีดังกล่าว ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ว่าบ้านเมืองตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา เราสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็นมานานแค่ไหน ผมเชื่อว่าทุกท่านมีคำตอบในใจกันทุกคน
.
สิ่งที่ประชาชนต้องการจากพรรคการเมืองในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องของการแก้ไขหรือไม่แก้ไข ยกเลิกหรือไม่ยกเลิกมาตรา 112 แต่เป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ผมอยากให้พรรคการเมืองทุกพรรคลองหันกลับไปมองที่ประชาชน คุณจะเห็นปัญหาของพี่น้องประชาชนมากมายที่รอการแก้ไข ปัญหาน้ำท่วม, ปัญหาราคาน้ำมัน, ปัญหาราคาพืชผัก, ปัญหา COVID-19, ปัญหาการถูกเลิกจ้าง, ปัญหาหนี้สินในครัวเรือน ทั้งหมดที่ผมพูดมาล้วนเป็นสิ่งสำคัญและเร่งด่วนมากกว่าประเด็นที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้
.
หยุดอ้างคำว่า “ประชาชน” ถ้าคุณไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และหยุดแอบอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” ถ้าคุณสนใจแต่ประโยชน์ของคนส่วนน้อย โดยไม่ได้คำนึงถึงคนส่วนใหญ่ และที่สำคัญที่สุดคือหยุดเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นองค์ประกันท่ามกลางความขัดแย้ง เพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง การกระทำแบบนี้สำหรับผม ผมว่ามัน “น่ารังเกียจ”
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #ศราพงศ์อิศรศักดิ์ณ อยุธยา ผู้กล้า-กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการเสนอแก้ไขมาตรา 112 โดยระบุว่า มาตรา 112

Must Read

Related News

- Advertisement -