จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลซัดกลับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน หลังจากที่มีประเด็นดราม่านายวิโรจน์ ตัวแทนนักการเมืองจากพรรคปชน. ออกมาแซะโดยถ้อยคำบางส่วนว่า “นายกฯ อิ๊งค์ถ้าไม่รู้เรื่องของปลาหมอคางดำ ให้ไปสอบถามกับพ่อ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเล่าให้ลูกสาวฟังได้ไม่ยาก เพราะคนชอบหาความรู้ ก่อนจะอัดแรงอีกดอกใส่คณะรัฐบาล “นั่งคดไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น ต้องจัดการนายกฯ ที่ไม่รู้สี่รู้แปด!“
“เชื่อเถอะ แพทองธาร ชินวัตร รู้อยู่แก่ใจ เพราะรายงานของคณะอนุกรรมการ ณัฐชา ก็ส่งให้แล้ว ยกเว้นว่าอ่านไม่ออก หรือถ้าไม่อ่าน ผมเชื่อว่าพ่อเขาต้องอ่านเพราะพ่อเขาเป็นคนช่างเรียนรู้ เขาก็ไปถามจากพ่อเขาเพราะคนอย่างเขาไม่อ่านอยู่แล้ว แต่พ่อเขาอ่านแน่นอน ก็ให้พ่อเขามาเล่าให้ฟังว่าจะแก้ยังไง”
“แล้ววันนี้ที่ผมรู้สึกว่าประชาชนเขาไม่พอใจอย่างมาก เขาเอาปัญหามาให้ถูกไหม โอเคความเดือดดาล-ความโกรธแค้น คุณต้องเทียบกับความสิ้นเนื้อประดาตัวของเขา แต่การรับหนังสือการให้คำมั่นว่าจะแแก้ไขมันควรจะมีหรือไม่ แต่ไม่ทำ สุดท้ายคือให้แบกความทุกข์แล้วจงแบกความทุกข์กลับไปอย่างนั้นหรอ ?”
“อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องความเดือดอดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐบาล นั่งคดไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องใช้กลไกทุกอย่างที่มีในสภาาผู้แทนฯ จัดการกับนายกที่ไม่รู้สี่รู้แปด วันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ไม่รู้สี่รู้แปด จริงๆ วันนี้เอาถุงก๊อปแก๊ปไปทอดดกินสัก 10-20 ตัว ไปทอดกินจะได้รู้ว่าทานอร่อยหรือเปล่าก็ยังไม่ยอมมาเอาเลย ตัวเองเท้าไม่ติดดินน่ะ ผมไม่รู้ไอ้รองเท้าไข่มุกเวลาใส่แล้วลอยจากพื้นหรือไง เท้าติดดินบบ้างได้ไหมอ่ะ เอาไปกินบ้างได้ไหม ทำไมครับ ตีนนี่แดงเลยนะครับ ติดพื้นไม่ได้ ตกลงแล้วพรรคเพื่อไทยหัวใจคืออะไร หัวใจคือทักษิณไม่ใช่เหรอ”
“หรือยังไงอ่ะ คุณจะเอาปลานี้ไปอยู่ชั้น 14 หรือเปล่า เพราะตอนนี้มันอยู่ในบ่อกุ้ง-บ่อปลาของพี่น้องประชาชน คุณขนไปอยู่ชั้นสิบสี่ได้ไหมหล่ะ! หรือจะขนไปอยู่ในบึงบ้านคุณหรือเปล่าหล่ะ เอาไปปล่อยซัก 10-20 ตัว เผื่อปลาค้งปลาคราฟต์จะได้กินบ้าง”
ด้วยเหตุนี้ นายจิรายุ ในฐานะโฆษกรัฐบาลไม่รอช้า ตอบโต้พฤติกรรมอีกฝ่ายของนักการเมืองวิปฝ่ายค้าน โดยมีการใช้คำจำกัดความลามไปถึงบุคลิกภาพของสส.บัญชีรายชื่อ และอดีตประธานคณะกรรมการยุทธนโยบาย กทม.ของพรรคก้าวไกล ชี้ชัดว่าเป็นการเล่นการเมืองแบบสายแว้น ออกอาการซาดิสต์ พูดจาน่าเกลียดเกินกว่าสังคมสุภาพจะรับไหว
นายจิรายุ ย้ำว่าการที่นายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ใช้คำล่อแหลมหยาบคายเกินกว่าสังคมจะรับได้ ทั้งที่นายกฯ ได้มอบหมายให้ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รวมทั้งอธิบดีกรมประมง ออกมารับฟังปัญหาจากผู้ชุมนุม อีกจนทั้งสั่งการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา
นายจิรายุ โฆษกรัฐบาลใช้คำว่า “ออกอาการซาดิสต์” เล่นการเมืองสายแว้นไม่เคยคิดเลยว่า คุณวิโรจน์จะลั่นวาจาคำว่า นายกไม่รู้สี่รู้แปดกับสื่อได้ คำแบบนี้สังคมทั่วไปทราบดีว่าเป็นการเล่นคำภาษามาจากคำหบายคาย เกินกว่าผู้แทนประชาชนจะให้สัมถาษณ์ได้ สะท้อนถึงคำโบรณาณที่ว่า สำเนีงส่อภาษากิริยาส่อสกุล
นอกจากนี้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โดยถามกลับอีกฝ่ายน “การเมืองใหม่” ของท่านอยู่ตรงไหนแน่ ฟังสัมภาษณ์จนจบก็ไม่รู้ว่าการเมืองใหม่จะมาถึงกี่โมง? โดยเฉพาะคำพูดที่ส่อไปในลักษณะเสียดสี ดูถูกและจงใจพูดถึงเรื่องส่วนบุคคล ฟังแล้วก็เวทนา เพราะการกระทำเช่นนี้ขัดแย้งกับที่อดีตหัวหน้าพรรคของท่านก็เคยยืนยันชัดเจน ว่าการวิจารณ์ลักษณะดังกล่าวเป็นสิ่งไม่เหมาะสม
“เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) การกระทำดังกล่าวสะท้อนวุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้พูด และไม่ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับฝ่ายค้านแต่อย่างใด
“เดียร์” ขัตติยา มองว่าการใช้ถ้อยคำเช่น “ไม่รู้สี่..รู้แปด” ต่อหน้าสื่อ ไม่ได้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ แต่กลับเป็นการโจมตีด้วยอารมณ์และการเสียดสีมากกว่า พร้อมตั้งคำถามว่า ฝ่ายค้านต้องการเรียกกระแสทางการเมืองก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มากกว่าการสะท้อนปัญหาของประชาชนอย่างจริงจังหรือไม่ ก่อนชี้ชัดเชิงสรุปกรณีนี้ฝ่ายค้านมุ่งสร้างภาพแทนแก้ปัญหาจริงมากกว่า
…..
#Thepoint #Newsthepoint
#ไม่รู้สี่รู้แปด #รัฐบาลเพื่อไทย #ศึกซักฟอกรัฐบาล
#วิโรจน์ลักขณาอดิศร #ฝ่ายค้าน #พรรคประชาชน