หน้าแรกการเมืองวอนนายกฯหนุนเป็นวาระแห่งชาติ "อรรถวิชช์" ยื่นแก้กฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร แก้หนี้นอกระบบ

วอนนายกฯหนุนเป็นวาระแห่งชาติ “อรรถวิชช์” ยื่นแก้กฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร แก้หนี้นอกระบบ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อริเริ่มรวบรวม 10,000 รายชื่อ เสนอร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เป็นผู้รับหนังสือ

โดยนายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงลูกหนี้เมื่อวานนี้(16 พ.ย.) สะท้อนถึงปัญหาหนี้นอกระบบร้ายแรงที่ต้องเร่งแก้ไข หนี้ครัวเรือนตอนนี้สูงถึง 5.6 แสนบาทต่อครัวเรือนแล้ว สิ่งที่พวกเรานำเสนอ คือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการเสนอ “ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร” ปฏิรูปการแจ้งข้อมูลจากการรายงานประวัติดีเสียปะปนตลอด 3 ปี เป็นการรายงานคะแนนเครดิต ใครคะแนนดีได้ดอกเบี้ยต่ำลง ธนาคารจะเกิดการแข่งขัน ลูกหนี้เองก็มีกำลังใจสร้างเครดิตตัวเอง โดยใครสามารถชำระหนี้เสร็จสิ้น หรือกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 6 เดือนติดต่อกันจะลบประวัติทิ้งทันที และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจคะแนนเครดิตของตนด้วย

“วิธีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะสร้างโอกาสให้กลับมาเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้ ไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหด หากทำสำเร็จ คนทำงานจะฟื้นตัวได้เร็วซึ่งขณะนี้ลูกหนี้ที่ถูกแช่แข็งทางการเงินมีกว่า 5 ล้านคน”นายอรรถวิชช์ กล่าว

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ภาคีเครือข่ายของเรามีทั้งภาคประชาชนและนักการเงินการธนาคารที่มาช่วยกันลงรายละเอียดในตัวร่างกฎหมายอาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง , นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ อดีตผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิต และอีกหลายท่านมาช่วยกัน หวังว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ที่ประกาศให้การแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ จะร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายภาคประชาชนฉบับนี้ เป็นทางออกแก้หนี้นอกระบบ และขอเชิญชวนผู้เดือดร้อน คนทำมาหากิน มาร่วมกันแสดงพลัง ลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร ให้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อทางสภาฯ ตรวจสอบและมีช่องทางให้ลงชื่อแล้ว เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ให้ร่วมกันลงชื่อกันทันที

Thepoint #Newsthepoint

อรรถวิชช์ #หนี้นอกระบบ #เครดิตบูโร

Must Read

Related News

- Advertisement -