เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.ยังไม่มีการพิจารณาถึงร่างพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อมาใช้ในโครงการเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งความเห็นมายังรัฐบาล เพราะต้องเสนอผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ตนเป็นประธานก่อน โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กำลังดูเวลาอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในตารางการประชุมของตน เมื่อถามว่าความเห็นของกฤษฎีกาส่วนหนึ่ง พูดถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงินที่ต้องเป็นไปตามระเบียบการเงินการคลัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ซึ่งจะต้องพูดคุยกัน
เมื่อถามว่ามองว่าความเห็นของกฤษฎีกามีความชัดเจนหรือไม่ ว่าทำได้หรือไม่ได้ นายกฯ กล่าวว่า ตนอยากฟังความเห็นของทุกๆฝ่ายด้วย เพราะกฤษฎีกาบอกให้ฟังความเห็นของทุกฝ่าย ที่ต้องมีความเห็นของ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ทุกคน ต้องให้ความสำคัญกับทุกเสียง
เมื่อถามว่าในความรู้สึกของนายกฯ ทางกฤษฎีกาไม่ให้ความชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ได้ ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า กฤษฎีกาไม่ได้บอกว่าทำได้หรือทำไม่ได้ เป็นเรื่องของดุลพินิจและต้องรับฟังความคิดเห็น ถึงบอกว่าจะต้องประชุมคณะกรรมการ.
เมื่อถามว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาลเปิดคำถามและคำตอบของกฤษฎีกา นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาสมควรก็จะเปิดเผย โดยต้องประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนเป็นประธานก่อน เพราะมีหลายฝ่ายร่วมอยู่ และต้องมาแสดงความคิดเห็น
เมื่อถามว่านายกฯมั่นใจว่าเรื่องนี้เดินไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไปต่อได้แน่นอน ชัดเจนและต้องขอประชุมคณะกรรมการดิจิทัลก่อน และจะตอบเนื้อหาที่หลัง
เมื่อถามว่าจะทันเดือน พ.ค.67 หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เวลานี้ยังยืนยันตามไทม์ไลน์เดิม แต่ต้องขอประชุมก่อน ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะอะไรอีกหรือไม่ อย่างที่บอกนัยสำคัญของกฤษฎีกา คือต้องฟังความคิดเห็นของทุกๆฝ่าย
เมื่อถามว่ายืนยันการออกเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กู้เงิน จะทำได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยืนยันถ้าออก ก็ออกเป็นพ.ร.บ. เมื่อถามว่าความเห็นของกฤษฎีกาไม่ได้ทำให้หนักใจอะไรใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกเรื่องมีความหนักใจหมด เพราะต้องดูความถูกต้อง ความครบถ้วนในแง่ของการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่าความเห็นที่แตกต่างของนายกฯ และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าจะมีผลกระทบต่อนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “คนอยู่บ้านเดียวกัน เห็นไม่ตรงกันก็หลายอย่าง ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านมีจุดประสงค์เดียวกันคือ อยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่เรื่องการปฏิบัติงานหรือนโยบายต่างๆอาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องพูดคุยกัน”
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเชิญผู้ว่า ธปท. มาพูดคุยกันเหมือนช่วงแรกๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ยังยืนยัน แต่รู้สึกว่าเดือน ธ.ค.ไม่ได้พูดคุยกัน แต่ก็ยกหูโทรศัพท์คุยกัน ขอบคุณที่เตือนมา ตนนัดไปเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งท่านก็ตอบรับโดยดี ไม่ได้มีเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน
“ผมเชื่อว่าท่านก็เห็นตรงกับผมบางเรื่อง ผมก็เห็นตรงกับท่านบางเรื่อง แต่บางเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันก็ต้องมาพูดคุยกัน และเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปเยอะ เป็นหน้าที่ผมที่ต้องโน้มน้าวความคิดเห็นของท่านว่าเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ตรงนี้มองว่า เป็นการอยู่ร่วมกัน เป็นธรรมดาก็ต้องพูดคุยกัน” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามถึงเอกชนเริ่มเลื่อนจ่ายหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 10 ม.ค.จะมีการพูดคุยกับรมช.คลัง และผู้ว่าฯธปท. ในเวลา 13.30 น. ซึ่งจะคุยกันหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่สำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญและนำข้อมูลมาหยิบยกกัน