เมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 ที่อาคารไทยซัมมิท นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีที่มีข้อความในทวิตเตอร์สอบถามว่ามึการรับเงิน ให้เสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่า ไม่มีใครจะมาลงทุนกับการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ซึ่งสมัยก่อนมีการพาดพิงตนในช่วงเวลาปี 61 ขณะนั้นยังไม่เป็น สส. แต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง โดยมีโอกาสไปร่วมกิจกรรม ค่ายการประชุมต่าง ๆ ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย ฝรั่งเศส สวีเดน บราซิล
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การหยิบยกว่ามีการนำเงินรายวัน หรือ Pocket Money แค่ 24 ยูโรนั้น ตนเองมองว่าไม่ได้มาก และการมีที่พักก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเวลาไปค่าย ผู้จัดงานก็จะมีการเตรียมการไว้ให้กับคนที่ไปเข้าร่วมอยู่แล้ว ดังนั้น การหยิบยกเรื่องที่เคยไปเป็นนักกิจกรรม และเข้าร่วมค่ายที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ไม่มีทางผิด
ตนเองยินดีที่จะให้วิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นนักการเมือง แต่ต้องพิจารณาว่า การวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้จะกระทบกับบุคคลภายนอกที่เป็นนักกิจกรรมจากประเทศอื่นหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรคก้าวไกล ที่มีการยื่นต่อ กกต. และหาเสียงเอาไว้กับประชาชน
“ไม่ได้รับงาน เดี๋ยวนี้รับงานมาแก้ไขมาตรา 112 แล้วเหรอ เราเห็นแต่การรับงานสัมปทาน เรื่องนี้เป็นมิติใหม่ ผมคิดว่าถ้าติดตามการเมือง ติดตามผมมานานพอ จะรู้ว่าผมมีจุดยืนในเรื่องของประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว เรายืนยันว่าบทกฎหมายอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย ต้องมีการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันแค่นั้นเอง” นายรังสิมันต์ กล่าว