เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2567 รายงานข่าวจากสืบนครบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่สืบนครบาลสามารถจับกุมตัวนายทนายอาร์ม อายุ 34 ปี ที่หน้าบ้านในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากถูกออกหมายจับในข้อหาข่มขืนลูกความจนเหยื่อสาววัย 26 ปีถึงกับตรอมใจกระโดดจากดาดฟ้าเรือหลวงจักรีนฤเบศร์หวังจบชีวิต
ตำรวจได้จับกุมตัวทนายอาร์ม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2055/2567 ลงวันที่ 3 พ.ค. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ที่สงขลา
พฤติการณ์อ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของหญิงสาว ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2565 เมื่อหญิงสาวต้องการทวงเงินจำนวน 100,000 บาทจากเพื่อน ได้จ้างทนายอาร์มดำเนินคดี หลังจากนั้นทนายอาร์มได้หลอกล่อให้เธอมาร่วมงานประชุมพรรคการเมืองที่ดอนเมือง จากนั้นข่มขืนเธอในห้องพักของโรงแรม
สืบนครบาลระบุว่า “เมื่อเธอมาถึงโรงแรมกลับเป็นโรงแรมเล็กๆไม่มีห้องประชุมใดๆ แต่ทนายดังออกอุบายให้เธอขนของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนแล้วจะเดินทางไปคุยงานด้วยกันที่อื่น เธอเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เมื่อเธอเดินเข้าไปภายในห้องพักเพื่อเก็บของ ทนายดังก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เธอถูกผลักและจับเธอบีบคอกดลงกับเตียงทันที ก่อนจะลงมือข่มขืนเธอผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบเมื่อเธอได้สติตื่นมาก็พบว่าทนายดังยังนอนเธอพยายามคว้ากระเป๋า เธอได้ทำของหล่นพื้นทำให้ผู้ต้องหาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเห็น วิ่งมาฉุดกระชากลากแขนเธอทุ่มลงกับเตียงอีกครั้ง “หนีไปบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อหรอก เดินเข้ามาในห้องเองแบบนี้คือการสมยอม” เสียงสุดโรคจิตของมันตะคอกใส่เธอ ก่อนจะลงมือข่มขืนจนเธอสลบไปอีกครั้ง”
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทนายอาร์มยังคงข่มขู่และบังคับให้เหยื่อกลับมาบำเรอซ้ำ พร้อมขู่ว่าจะบอกสามีเธอและจะไม่ทำคดีให้ต่อ เมื่อเหยื่อพยายามแจ้งความ กลับถูกทนายฟ้องกลับในข้อหากรรโชกทรัพย์และแจ้งความเท็จ ทำให้เหยื่อต้องออกจากงานราชการและซึมเศร้าจนตัดสินใจกระโดดจากดาดฟ้าเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากทหารที่เห็นเหตุการณ์ คือ “พ.จ.อ.ดาวลอย นาธงไชย และ พลทหารกูฮัท ซัน สมัย”
ในชั้นจับกุม นายทนายอาร์มให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเหยื่อสมยอมและได้ฟ้องกลับในข้อหากรรโชกทรัพย์และแจ้งความเท็จ
สืบนครบาลรายงานว่า ทนายอาร์มให้การว่า “มันเป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย คดีนี้ผมชนะอยู่แล้ว ถ้าผมแพ้ผมก็คงเลิกเป็นทนายความ แล้วตอนนี้ตนเองได้ฟ้องกลับฝ่ายหญิงแล้ว ข้อหา กรรโชกทรัพย์ และแจ้งความเท็จ และตนเองก็ได้ร้องไปที่ ปปช. ด้วยถึงการทำงานของพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง
ยืนยันว่าที่ฟ้องกลับเหล่านี้ไม่ได้เป็นการแก้เกลี้ยว ส่วนเรื่องที่ฝ่ายหญิงไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตายตนเองไม่ทราบ และไม่ได้เห็นใจอะไร ขออย่าไปเข้าข้างฝ่ายหญิง ให้ดูข้อเท็จจริงด้วย คนสองคนเดินเข้าห้องไปด้วยกันมันสมยอมอยู่แล้ว”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “คดีนี้พยานหลักฐานเพียงพอให้ศาลอนุมัติการออกหมายจับ การที่เหยื่อเลือกจบชีวิตตนเองเช่นนี้บ่งบอกถึงการถูกกดดันและข่มเหงอย่างหนัก เราจะขยายผลการสอบสวนเพิ่มเติมและขอให้ประชาชนที่มีเบาะแสเกี่ยวกับคดีนี้แจ้งข้อมูลมาที่เพจ สืบนครบาล”