นายพิเชฐ เดชอรัญ ผู้กล้ากทม. เขตบางเขน กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการมาทำงานการเมือง ว่า ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ได้มีโอกาสทำหน้าที่ประสานงานให้แก่พักการเมืองหนึ่งในพื้นที่ได้สัมผัสการเป็นอยู่ของชาวบ้าน เห็นความถึงความยากจน และความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ การเข้าถึงระบบต่างๆของรัฐ การได้รับความดูแลจากภาครัฐที่ไม่ทั่วถึง จึงคิดว่ามันควรจะดีกว่านี้ โดยเฉพาะนักการเมืองที่ไม่สามารถเข้าถึงความต้องการของประชาชนและดูแลประชาชนได้อย่างแท้จริง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจ มาทำงานการเมืองโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะอาสามาทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง รับรู้ รับฟังปัญหา ดำเนินการประสานแก้ไข นี่คือความตั้งใจในการมาทำงานการเมือง
.
นายพิเชฐ กล่าวถึงการช่วยเหลือชาวบางเขนในช่วงโควิดทั้งหลายระลอกมีที่ผ่านมาว่า ในปี 63ได้ประสานภาครัฐและภาคเอกชน มอบข้าวกล่อง ประมาณ 4,000 กล่อง มอบถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้ที่ต้องกักตัวและผู้ที่มีความต้องการ ขณะที่ในปี 64 ได้เปิดครัวที่เขตบางเขน มอบข้าวกล่อง 1 สัปดาห์ ผลิตข้าวกล่องประมาณ 3,000 กล่อง มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ป่วย โควิด-19 ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ต้องกักตัวและตกงาน พร้อมประสานหาเตียงให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ประสานงานของรัฐ ศูนย์สาธารณะสุข 24 เพื่อนำผู้ป่วยเข้าศุนย์พักคอยของเขตบางเขน และประสานแพทย์ชนบทเข้ามาตรวจคัดกรองเชิงรุกในเขตพื้นที่บางเขน
.
ส่วนสาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจเลือกพรรคกล้าเพราะเรื่องไหนเป็นพิเศษ นายพิเชฐ ระบุว่า เพราะเชื่อมั่นในตัวผู้บริการพรรคว่าแก้ไขปัญหาของประเทศได้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
.
สำหรับนโยบายที่ประเทศควรพัฒนาหลังผ่านพ้นวิกฤติ ควรมีการพัฒนาประเทศในมิติไหนบ้างนั้น นายพิเชฐ ระบุว่า ฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน และแก้ไขปัญหาการว่างงานของประชาชน พัฒนาสังคมและความเป็นอยู่ของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมและปฏิรูประบบการทำงานของราชการ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการทำงาน เพื่อให้เกิดความกระชับและฉับไวมากยิ่งขึ้น
- Advertisement -