นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ทำจดหมายเปิดผนึก ถึง“นายกรัฐมนตรี” ถึงข้อเสนอการรับมือ “วิกฤตเตียงไม่พอ” โดยระบุว่า ผมและพรรคกล้า สรุป 6 ข้อเสนอแบบกระชับดังนี้ครับ
.
- ส่งต่อคนไข้ไปต่างจังหวัด แบ่งเบาส่วนกลาง ระบบถึงปลายทางต้องพร้อม
- เพิ่มคนรับสาย/ตอบไลน์ พร้อมข้อมูลครบถ้วน
- สายด่วนควรโทรฟรี ทุกเบอร์ ทุกเครือข่าย ทั่วประเทศ
- ลงทะเบียนรักษาที่บ้านเกิดอย่างเป็นระบบและมีงบประมาณดูแลการเคลื่อนย้าย
- ฉีดวัคซีนและจัดอุปกรณ์ป้องกันให้กับกลุ่มอาสาสมัคร กู้ภัย และมูลนิธิ
- มีระบบกักตัวที่บ้าน พร้อม น้ำ อาหาร ยาต้านไวรัส หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เครื่องวัดออกซิเจนต้องถึงผู้ป่วย
.
รายละเอียด ข้อสรุปปัญหาเตียงไม่พอ จากการลงมือทำจริงของกลุ่ม ‘กล้าอาสา-หาเตียง’และข้อเสนอแนะรูปธรรม ที่จะทำให้ระบบหาเตียงของภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัญหาเฉพาะในส่วนของการเข้าระบบรอคิวเตียง-ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนี้
. - เบอร์ call center ของรัฐทุกเบอร์โทรติดยากมาก โดยเฉพาะ 1668 ที่เป็นเบอร์หลัก บ่อยครั้งรอสายกว่า 1 ชั่วโมง จนสายหลุดก็ไม่มีผู้รับ
ข้อเสนอ : รัฐต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ call center และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะรับสายให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้หากขาดความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการระบบ ให้ขอคำแนะนำจากผู้ให้บริการ call center รายใหญ่ เช่น ทรูมูฟ AIS dtac
.
2.โทรติดแล้วเจ้าหน้าที่บอกจะติดต่อกลับไปยังผู้ป่วย หลายรายรอ 3-4 วันก็ไม่มีคนโทรกลับ ทำให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลและไม่รู้ต้องทำยังไงต่อไป
ข้อเสนอ : เพิ่มบุคลากรดังกล่าวในข้อ 1 ให้เพียงพอที่จะโทรกลับผู้ป่วย พร้อมทั้งพัฒนาระบบติดตามผล ป้องกันการตกหล่น โดยรวมฐานข้อมูลของทุกเบอร์call centerเข้าด้วยกัน
.
3.ส่งข้อมูลไปทางไลน์@sabaideebot หลายวันแล้วก็ยังไม่มีคนอ่าน
ข้อเสนอ : ปรับปรุงระบบ เอาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการ แต่อย่าใช้ช่องทางนี้เป็นทางเลือกหลัก เพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนไม่น้อยที่ยังเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ดังจะเห็นจากโครงการเยียวยาของรัฐซึ่งมีผู้ไปต่อคิวหน้าธนาคารเพราะลงทะเบียนออนไลน์ไม่เป็นอีกเป็นจำนวนมาก
.
4.ตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ call center แล้วข้อมูลยังไม่ได้อยู่ในระบบคิวรอเตียง โดยเฉพาะผู้ที่ไปตรวจเชิงรุกและตรวจโรงพยาบาล/แล็บเอกชนที่ไม่ได้เป็นจุดตรวจคัดกรองของรัฐ (ซึ่งจริงๆหน่วยงานที่ตรวจพบเชื้อทุกหน่วยควรเป็นคนแจ้งข้อมูลเข้าฐานข้อมูลกลางตั้งแต่ทราบผลว่าพบเชื้อ)
ข้อเสนอ : ศบค.ต้องออกนโยบายบังคับให้ทุกโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน จุดตรวจคัดกรองเชิงรุก รวมถึงแล็บเอกชนต่างๆ ให้แจ้งข้อมูลผู้ตรวจพบเชื้อเข้ามายังฐานข้อมูลส่วนกลางอย่างเคร่งครัด เพื่อเข้าสู่ระบบรอคิวโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่ให้ผู้ติดเชื้อต้องมาโทรลงทะเบียนจองคิวเตียงอีก เพราะผู้ป่วยจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการลงทะเบียนจองคิวดังกล่าวได้
.
5.ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับผู้ตรวจพบเชื้อ หากเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็ก จะไม่สามารถออกไปตรวจได้ และไม่มีหน่วยงานใดๆมา swab ให้ที่บ้าน จนหลายรายนอนเสียชีวิตคาบ้าน
ข้อเสนอ : ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อ และเข้าข่ายเป็นผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือเด็กเล็ก หากไม่มีผู้พาไปตรวจ สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐเพื่อขอให้มา swab ที่บ้านได้ทันที โดยรัฐอาจให้สาธารณสุขเขตเป็นผู้ดำเนินการในพื้นที่ของตน
.
6.กรณีผู้ป่วยสีเหลืองเข้ม หรืออาการทรุดหนักเฉียบพลัน เมื่อโทรไปประสานขอรถฉุกเฉิน มักจะถูกประเมินว่ายังไม่หนักพอ ซึ่งหลายเคสเป็นการประเมินที่ผิดพลาด จนต้องเสียชีวิตคาบ้าน
ข้อเสนอ : เมื่อได้รับการประสานว่าเป็นเคสอาการหนัก หากปล่อยให้ศูนย์เอราวัณเป็นผู้รับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียวกำลังจะไม่พอ ดังนั้นควรให้สาธารณะสุขเขต และทีมอาสากู้ภัยซึ่งมีอยู่แล้วในทุกเขต เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม ในการลงพื้นที่ประเมินอาการและเข้าช่วยเหลือเชิงรุกอย่างทันท่วงที
.
ทั้งนี้ รัฐบาลอาจจัดหาเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มอบให้แก่ผู้ตรวจพบเชื้อทุกรายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง/กลุ่มสีเหลือง เพื่อวัดค่าออกซิเจนอย่างสม่ำเสมอ และใช้ผลวัดดังกล่าวยืนยันอาการเมื่อร้องขอรถฉุกเฉิน ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการประเมินที่ผิดพลาดจนมีผู้เสียชีวิตเช่นที่ผ่านมา
.
หากข้อเสนอของเราจะเป็นประโยชน์ในทางใดก็ตาม ผมและทีมงานกล้าอาสาทุกคน ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีนำข้อเสนอเหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อเสนอโดยตรงจากการลงมือทำหน้างานไปปรับใช้โดยด่วน พวกเราจากพรรคกล้าพยายามทุกทางในการบรรเทาความเดือนร้อนของผู้คนเท่าที่เราจะทำได้ในกำลังที่เรามี และจะทำหน้าที่ของเราเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตฉุกเฉินต่อไป
.