นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า นั่งดูคลิปการศึกษาไทย VS การศึกษาต่างประเทศ มีทั้งไทย VS สิงคโปร์ ไปยัน VS ยุโรป อเมริกา เห็นจริงๆหละครับ
ในยุครุ่นผมเด็กๆ ผมว่าคุณภาพการศึกษามันห่างนะ แต่มันไม่ได้ห่างเท่านี้ สมัยก่อนมันห่างแบบหัวถึงเท้า ตอนนี้มันกลายเป็นหัวกับปลายเหว ไม่แปลกใจเลยที่พ่อแม่ยุคใหม่ ถ้ารวยก็รอด ส่งลูกเรียนนอก ไม่ก็โรงเรียนอินเตอร์ ถ้าไม่รวย ก็ต้องขายที่ ขายบ้าน เอาลูกเข้าโรงเรียนแพง ยันโรงเรียนอินเตอร์ที่ผุดขึ้นมาทั่วเมือง เพื่อปิดช่องว่างความห่วยแตกของคุณภาพการศึกษาไทย
.
30 ปีหลังจากผมจบมัธยมแห่งหนึ่งที่ไม่มีวัฒนธรรมเคารพครูแบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไทยยังให้เทิดทูนครูแบบของศักดิ์สิทธิ์ แต่ประเทศอื่นเค้าให้นับถือที่คอนเท้นต์ นวัตกรรม การวิจัย และผลงาน ฟังสัมภาษณ์เด็กๆที่ไปเจอการเรียนที่โหดกว่าไทยมา เอ้อ เด็กมันไม่ได้กลัวความเหนื่อย ถ้าความเหนื่อยมันมีเป้าหมาย เด็กมันไม่ได้เบื่อที่ต้องไปกราบตีนครูบาอาจารย์ มันแค่ถามว่ากราบตีนแล้ว ครูบาอาจารย์ช่วย shape อนาคตมันให้ดีเท่าเด็กในสิงคโปร์ เวียดนามได้มั้ย?
.
เด็กไทยในไทยมันต้องเจออะไรบ้าง? อยากเข้าโรงเรียนดีต้องใช้เส้นสาย โรงเรียนดีไม่มีใกล้บ้าน ข้อสอบยังท่องจำอยู่เลย คนตอบว่าเสียกรุงศรีอยุธยาปีอะไร ได้คะแนนดีกว่าคนที่พยายามวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเสียกรุง
การเดินทางสาธารณะห่วย คนขับรถเมล์ รถตู้ ยันแท็กซี่จำนวนมากยังขับรถอย่างไร้ความรับผิดชอบโดยไม่มีระบบใดๆมาคุม เดินเท้า ปั่นจักรยาน ไม่รอด หากบ้านไม่รวย เข้าโรงเรียนดีไม่สำเร็จ ก็ต้องเข้าระบบกราบตีนครู แต่จบมาแล้วตกงาน
.
มองย้อนกลับมาที่ตัวเอง ผมอายุ 49 แล้ว เวลาทำงานกับข้าราชการ ที่ดีๆก็มีนะ แต่พวกที่หลุดขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่
จะข้าราชการระดับสูง หรือนักการเมืองระดับสูงเกิน 70% เวลาต้องยืนตรง เอามือกุมกระโปกโค้งให้คนเหล่านี้
หลายๆครั้งก็ถามตัวเองว่า ทำไมเรามีคนที่แก่แต่อายุ แต่ด้อยด้วยปัญญาขึ้นมาบริหารบ้านเมืองมากมายขนาดนี้ แล้วเรายังจะต้องไปโค้งให้คนแก่แต่อายุ ที่ความคิด และความรู้สู้เด็ก ม.3 ยังไม่ได้ ไปทำไมกันวะ
.
‘พงศ์พรหม’ชำแหละ!!การศึกษาไทยดิ่งทิ้งห่างต่างประเทศ’หัวกับปลายเหว’ไม่แปลกใจพ่อแม่ยุคใหม่ส่งลูกเรียนนอก
- Advertisement -