นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย(สอท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า.ในวิกฤติ PM2.5 (ที่จริงๆผมอยากจะเปลี่ยนเป็นคำว่าวิกฤติอากาศพิษมากกว่า) ปีนี้กรุงเทพขึ้น “สีแดง” ทั่ว และเรากำลังจะ “ตายจริง” ครับ ผมอยากเสนอผู้ว่า กทม. ครับ ว่าอะไรที่ทำได้ ก็ทำก่อน ไม่ต้องรอ
- สมัยผู้ว่าพิจิตต รัตตกุล ท่านเคยทำโครงการถนนปลอดฝุ่น และทำเขตลดมลภาวะจนได้ผล จริงๆก็คือการ “ตั้งด่าน” ตรวจมลภาวะอย่างถูกต้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ กทม. และตำรวจ ประสานงานกัน ตรวจจับรถที่มีมลภาวะสูงเกินมาตรฐาน ซึ่งมักจะเป็นรถดัดแปลง (กระบะซิ่งควันดำที่เห็นกันทั่วเมือง) หรือรถที่หมดสภาพ
- กวดขันการต่อทะเบียน เพราะตรงนี้คือจุด “หลุด” จุดใหญ่ ผมได้ยินมาแม้แต่ว่า เจ้าของบริษัทรถขนส่งใช้การ “จ่ายเหมา” ทำให้รถในเครือตัวเองวิ่งควันดำได้ เพื่อจะได้กำไรสูงสุด อันนี้ต้องไปหาข้อเท็จจริง รวมถึงมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงท่อไอเสีย ที่ทำกันปกติทั่วเมือง
- จับที่ต้นตอ คือทำแบบที่ทั่วโลกเค้าทำ คือยึดอุปกรณ์ดัดแปลงผิดกฏหมาย เช่นร้านตัด catalytic ร้านรับอุด EGR ร้านรับแต่งปั๊มดีเซลที่ไม่มีใบรับรอง
- หยุดให้ กทม. และกรมทางหลวง ตัดต้นไม้หัวกุด ตรงนี้ต้องตามไปให้ถึงว่า ตัดต้นไม้แล้ว “ไปไหนต่อ” เพราะผมเคยได้ว่ามีการ “จ่าย” เจ้าหน้าที่รัฐให้ตัดต้นไม้ “ให้เยอะ” เพื่อเอาไม้มาขายโรงไฟฟ้าชีวะมวล
- ข้อนี้ยาก แต่ควรทำ คือจับมือกรมโรงงาน กวดขันโรงงานที่ผมก็ดันได้ยินมาอีกว่า “จ่ายแล้วปล่อยควันพิษได้” ซึ่งนี่คือปัญหาคอร์รัปชั่นขนาดยักษ์ที่เป็นรากปัญหามลภาวะกรุงเทพ
กวดขัน 4 เรื่องง่าย 1 เรื่องไม่ง่ายนี้ อากาศกรุงเทพจะดีขึ้นจนวัดได้ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อเคยมีผู้ว่าเก่งๆทำมาแล้ว แต่ถูกละเว้นไปหลายปี ก็อยากให้กลับเอามาทำใหม่ให้เร็วครับ ปอดประชาชนรอไม่ได้ มะเร็งกินทั่วเมืองละครับ
.