จากกรณีชายชาวออสเตรเลีย อายุ 41 ปี โวยวาย กระโดดถีบรถหญิงสาวที่ขับรถเก๋งมากับแฟนหนุ่ม ทั้งยังเอาป้ายทะเบียนรถของเธอที่หล่นอยู่เขวี้ยงใส่ แถมยังถ่มน้ำลายใส่หน้ากระจกรถอีกด้วย หลังจากที่เธอขับรถชนท้ายรถบิ๊กไบก์ของชายต่างชาติรายนี้ หลังเกิดเหตุ ชายชาวออสซี่ รายนี้ ก็ยอมรับผิด และจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย ต่อหน้าตำรวจ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณแยกไฟแดงแบริ่ง จังหวัดสมุทรปราการ
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2567 พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กับ พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สำโรงเหนือ ได้เชิญ น.ส.อังคณา ผู้ขับรถเก๋งคนเกิดเหตุ มาให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่ให้ความเป็นธรรมกับเธอ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางด้าน น.ส.อังคณา กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนกับคู่กรณีมาเจรจาค่าเสียหายอยู่โรงพักนั้น มีพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เป็นเจ้าของคดี ตอนนั้นตนไม่มีหลักฐานจากกล้องหน้ารถ และทางพนักงานสอบสวนชี้ว่า ตนเป็นคนที่ไปชนท้าย โดยไม่ฟังคำอธิบายว่า คู่กรณีเจตนาเบรกให้ชนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วพนักงานสอบสวนใช้นำเสียงในลักษณะไม่พอใจและชี้ให้ตนผิด สุดท้ายตนจึงยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายกรณี จำนวน 6,000 บาท ส่วนคู่กรณียอมชดใช้ 11,000 บาท ฐานทำให้เสียทรัพย์
หลังเกิดเหตุ ตนเชื่อว่า จุดเกิดเหตุน่าจะมีกล้องวงจรปิด จึงเดินทางไปขอภาพจาก อบจ.สมุทรปราการ และมามอบเป็นหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าคู่กรณีตั้งใจเบรกให้ชน แต่ทางพนักงานสอบสวนกลับไม่สนใจ และยังตวาดเสียงดังกลางโรงพักว่า ทำไมคุณถึงต้องไม่จบด้วย ผมบอกแล้วไงว่าคุณผิด คุณชนท้ายยังไงคุณก็ผิดกฏจราจร ทั้งนี้อยากฝากไปยัง ตร. คนดังกล่าวว่า ประชาชนไม่ได้มีความรู้กฎหมายทุกคน การที่ตนมาหาตำรวจเพราะอยากได้รับความเป็นธรรม แต่มาเจอแบบนี้รู้สึกผิดหวังมาก
ขณะที่ มีบางช่วงบางตอนที่สื่อมวลชนมีการซักถาม พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สำโรงเหนือ โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้เสียหาย กล่าวถึงพฤติกรรมและความเหมาะสมของพนักงานสอบสวนที่ทำคดี ทำให้ผู้กำกับต้องออกมาชี้แจง และเตรียมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบวินัย พร้อมทั้ง ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย กลางห้องประชุม ต่อหน้าสื่อมวลชนและตำรวจอีกหลายนาย
ส่วนทางคดี ผกก.สำโรงเหนือ เผยว่า ตนเองขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงริงอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าพนักงานสอบสวนบกพร่องก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของผู้เสียหาย ตนจึงได้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนให้กับผู้เสียหายแล้ว