เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลน้ำจากเเม่น้ำสายบุรี เอ่อท่วมถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อ จ.ปัตตานี เเละ จ.นราธิวาส ช่วง ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี รถขนาดเล็กสัญจรไม่ได้ เเละบ้านเรือนประชาชนริมสองข้างทางถนนถูกน้ำท่วมทั้งหมด
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง นำไฟสัญลักษณ์มาติดไว้บริเวณขอบถนนเพชรเกษม ต.ละหาร อ.สายบุรี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยบางจุดเสียหายหนักเเละมีน้ำไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่จึงกันเส้นทางเเละเเจ้งเตือนผู้ขับขี่ ขณะนี้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ รถยนต์สัญจรผ่านไม่ได้ 13 เส้นทาง
ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานี ต้องรับน้ำจากทั้ง จ.นราธิวาส เเละ จ.ยะลา โดยมวลน้ำจาก จ.นราธิวาส ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี ทำให้ระดับในแม่น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี ใน 4 อำเภอ คือ อ.กะพ้อ อ.ทุ่งยางแดง อ.สายบุรี อ.ไม้แก่น ส่วนมวลน้ำจาก จ.ยะลา ไหลลงมาสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมใน อ.เมือง อ.ยะรัง อ.หนองจิก และ อ.โคกโพธิ์
ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 8 อำเภอ 30 ตำบล 95 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 25,000 คน
ส่วนที่ จ.ยะลา ชาวบ้านครอบครัวหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.อาช่อง อ.รามัน กอดกันร้องไห้ หลังลูกสาว 2 คนพบหน้าแม่วันแรกหลังน้ำลด ลูกสาว บอกว่า ช่วงน้ำท่วมวันแรกเกิดความกังวลใจและนอนไม่หลับ เพราะพ่อและแม่ติดอยู่ในบ้านช่วงน้ำท่วม เมื่อทราบข่าวเพื่อนบ้านช่วยเหลือให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย จึงหายกังวล เมื่อน้ำลดจึงรีบเดินทางมาหา
แม้ระดับน้ำในพื้นที่ ต.อาช่อง ลดลงแล้ว แต่พบว่าในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดยังมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านยังอยู่ท่ามกลางสายน้ำและได้รับความเดือดร้อน เพราะเก็บของหนีน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ต.อาช่อง คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 สับดาห์สถานการณ์จะคลี่คลาย