หน้าแรกการเมืองนี่หรือประชาธิปไตย!!'โบว์-ประวิตร'จวกโซเชียลปลุกแบน'ลูกหนัง'เกลียดพ่อแต่ไปลงที่ลูก!จมปลักความเกลียดชัง

นี่หรือประชาธิปไตย!!’โบว์-ประวิตร’จวกโซเชียลปลุกแบน’ลูกหนัง’เกลียดพ่อแต่ไปลงที่ลูก!จมปลักความเกลียดชัง

จากประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ แฮชแท็ก #แบนลูกหนัง #SITALA ติดเทรนด์ยอดนิยมในทวิตเตอร์ หลังการเปิดตัว”ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง”ลูกสาวของ ตั้ว ศรัณยู กำลังจะเดบิวต์เป็น 1 ในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปใหม่ H1-KEY จากค่าย จีแอลจี GLG (Grandline Group) ที่เกาหลีใต้ ขณะที่ชาวเน็ตไทยบางส่วนได้ออกมาแบน โดยขุดโยงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีตมาโจมตี
.
ด้านนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส เครือหนังสือพิมพ์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ศาลตัดสินลงโทษ ยังลงโทษลูกเมียแทนมิได้ เราจึงมิสมควรลงโทษและบอยคอตหญิงคนหนึ่งเพราะสิ่งที่พ่อเธอก่อ (เธอเป็นเพียงตัวประกอบในการชุมนุมที่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งจะเดบิวกับวง K Pop แล้พบว่าเป็นลูกตั้ว ศรัณยู-และถามจริงว่าถ้าลูกหนังมิใช่ลูกของตั้ว ศรัณยู จะมีใครสนใจประเด็นนี้ไหม? เกลียดชังขนาดนี้ไหม?
.
ยอมรับเถอะครับมันคือความเกลียดตั้ว ศรัณยู ที่ไปลงที่ลูกสาวแทน เพราะลำพังลูกสาวไปร่วมชุมนุม มิได้มีใครสนใจหรือจดจำ) ผมไม่เห็นด้วยกับการกดดันลูกหนังเพื่อลงโทษกับกรรมที่ตั้วศรัณยูทำ นี่มิใช่ความยุติธรรม แต่มันคือการล้างแค้นอย่างไม่ถูกต้อง เราควรจะมองไปในอนาคต มิใช่จมปลักอยู่กับความเกลียดชังในอดีต
.
ขณะที่”โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา” นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้แชร์โพสต์ของนายประวิตร พร้อมระบุว่า ปัจเจกบุคคลมีสิทธิแสดงออกและมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตนเองตามกฎหมาย ส่วนการเปลี่ยนแปลงใดๆทางการเมืองนั้นมีปัจจัยอีกมาก จะไปโยนให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบกับการกระทำของรัฐหรือกองทัพไม่ได้ บ่อยครั้งปัจเจกบุคคลก็เป็นเหยื่อของสถานการณ์และการปลุกปั่นเช่นกัน
.
ไม่ทราบว่าคนที่โจมตีลูกหนังอยู่นี่จะรู้หรือไม่ว่าคนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยปัจจุบันจำนวนมากก็เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตร และมีคนระดับแกนนำที่เคยเป่านกหวีดมาทั้งบ้านเช่นกัน การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิและปัจเจกบุคคลมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว การโจมตีถึงขั้นอยากทำลายอนาคตลูกหลานคือวัฒนธรรมศาลเตี้ยที่ล้าหลังมาก ในอนาคตลูกหลานของแกนนำในปัจจุบันก็ไม่ควรโดนสิ่งเหล่านี้จากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ต้องไม่ร่วมสร้างบรรทัดฐานที่เสื่อม
.
ในสังคมประชาธิปไตยมีการสอนแต่เด็กให้รู้จักสื่อสารแบบ assertive ใช้เหตุผลในประเด็น ไม่โจมตีตัวบุคคล แค่ไม่จงใจสร้างความเดือดร้อนหรือทำร้ายทำลายกันก็เป็นเส้นที่คุยกันได้อย่างมีอารยะแล้ว ถ้าสร้างบรรยากาศที่ตรงกันข้าม การแลกเปลี่ยนในหมู่ประชาชนจะเป็นไปไม่ได้และไม่เกิดพลังอะไรเลย สถานการณ์แบบนี้ผู้มีอำนาจนั่งยิ้ม
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #แบนลูกหนัง #SITALA #ลูกหนังศีตลา #ศีตลาวงษ์กระจ่าง #ตั้วศรัณยู

Must Read

Related News

- Advertisement -