เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เดินทางกลับไปยังทำเนียบขาว เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และเข้าหารือเกี่ยวกับการถ่ายโอนอำนาจกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งถือเป็นไม้เบื่อไม้เมาทางการเมืองกันมายาวนาน
โดยไบเดนพบหารือกับทรัมป์ ในห้องทำงานรูปไข่ หน้าเตาผิงที่กำลังลุกโชน ซึ่งไบเดน ให้คำมั่นกับทรัมป์ว่าจะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น และทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าทรัมป์จะได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
โดยการพูดคุยระหว่างทรัมป์และไบเดนกินระยะเวลาประมาณ 2 ชั่้วโมง ประเด็นหลักในการหารือยังคงเป็นเรื่องของนโยบายต่างประเทศ ทั้งการหาทางช่วยเหลือตัวประกันในฉนวนกาซาที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้หลังเกิดสงครามกับอิสราเอลและสงครามในยูเครน ซึ่งไบเดนได้ขอร้องให้ทรัมป์อย่าหยุดส่งความช่วยเหลือแก่ยูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย
สำหรับการพบกับไบเดนที่ห้องทำงานรูปไข่นี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ทรัมป์ได้กลับไปเยือนทำเนียบขาวหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2020 ซึ่งในเวลานั้น ทรัมป์ในฐานะประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่งปฏิเสธที่จะให้ไบเดน ซึ่งเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เข้าพบที่ทำเนียบขาว แม้เป็นธรรมเนียมที่ยึดถือมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดน โดยอ้างว่าตนเองถูกโกงในการเลือกตั้ง
อีกความเคลื่อนไหวที่เป็นข่าวดีของ ทรัมป์ เช่นกันคือ ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาในรัฐที่เหลืออยู่ ซึ่งปรากฏว่าพรรครีพับลิกันได้เก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.เพิ่มเติมในรัฐนิวยอร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย และ รัฐที่ทีคะแนนเสียงสูสี หรือสวิงสเตทบางรัฐ ทำให้จนถึงขณะนี้พรรครีพับลิกันมีจำนวน ส.ส. เกิน 218 คน เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดทื่มีที่นั่งทั้งหมด 415 ที่นั่ง
ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปรากฎว่าพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากเช่นกัน โดยมีจำนวนสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว 53 คน จากทั้งหมด 100 คน ส่วนพรรคเดโมแครตมี ส.ว จำนวน 47 คน โดยการควบคุมทั้งสภาล่างและสภาสูงของสหรัฐฯ จะช่วยให้ ทรัมป์ ผลักดันนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น
…..
#Thepoint #Newsthepoint
#โดนัลด์ทรัมป์ #เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ #โจไบเดน #ทำเนียบขาว