วานนี้(19 กันยายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุม ข้าราชการชาย ตำแหน่งนักพัฒนาสังคมชำนาญการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 11 ก.ย.2564 หลังพบพฤติกรรมยักยอกเงินช่วยเหลือประชาชนกว่า 13 ล้านบาท โดยจับได้เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 64 ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะกำลังจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
.
นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์ แถลงกรณีจับกุม นายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ พก. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยระบุว่า นายพิศาล ยักยอกเงินไปจำนวน 13 ล้านบาทจริง โดยเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินอุดหนุนกลุ่มเปราะบาง แต่เป็นเงินบัญชีนอกงบประมาณที่เบิกจ่ายเป็นเคสๆที่จำเป็น ปกติ 2-3 เดือนถึงจะเบิก ทำให้ไม่ได้ตรวจสอบบัญชีบ่อยเป็นช่องว่างให้คนยักยอก
.
ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติได้เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท และร่วมวางแผนกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อมาตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้ขณะจะหลบหนีข้ามแดนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย คุมตัวส่ง สน.พญาไท คดีนี้ กรม พก. ได้เป็นเจ้าทุกข์ยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อไป โดยเบื้องต้นได้สั่งให้นายพิศาลออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมระงับการจ่ายเงินเดือน และทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบธุรกรรมการเงินของนายพิศาล รวมทั้งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ายังมีผู้อื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่
.
“เรื่องนี้ พม.ให้ความสำคัญมาก ให้อภัยไม่ได้ หากพบว่ามีผู้บริหารหรือระดับปฏิบัติการ เข้าไปเกี่ยวข้องจะเอาผิดถึงที่สุดไม่มีการลดโทษ ขณะนี้ได้สั่งปรับปรุงระบบและรหัสบัญชีแล้ว รวมทั้งจะปรับปรุงระบบเทคโนโลยีใหม่ทั้งกระทรวง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในอนาคต”นางพัชรี กล่าว
.
ด้านน.ส.สราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดี พก. ระบุว่า จากการสอบสวนนายพิศาลอ้างว่าทำคนเดียว เป็นการยักยอกจากเงินปีงบประมาณ 2564 ช่วงใกล้ปิดงบประมาณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะตรวจสอบทุกปี ทำให้ผู้ต้องหาเร่งเอาเงินออก คงรีบนำเงินออกเพื่อรีบหนี ทำให้พบความผิดปกติและรีบจัดการโดยร่วมมือกับทุกฝ่าย ตามแกะรอยจนทราบว่าผู้ต้องหาเดินทางไป จ.เชียงราย ในวันศุกร์ที่ 17 ก.ย. เวลาบ่าย 2 โมง กระทั่งรถ จยย.รับจ้างที่จะพาข้ามแดน เห็นความผิดปกติโทร.มาแจ้งที่กรม ตามที่เคยประชาสัมพันธ์ออกไป จากนั้นรีบประสานตำรวจให้ออกหมายจับ ส่วนรหัสบัญชีเบื้องต้นมีผู้รู้รหัสบัญชี 3 คน มีเลขานุการกรมที่ดูแลการเงิน-การบัญชี มี ผอ.กลุ่มการเงิน และเจ้าหน้าที่อีก 1 คน
.
- Advertisement -