เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 “ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เขียนบทความบนเฟซบุ๊กเรื่อง “ธนาธร คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมทางการเมือง” มีเนื้อหาว่า
พรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้สำเร็จ เที่ยวเดินสายหาคนโน้นคนนี้ไปทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กปปส. หรือ นปช. อ่านข่าวได้จาก “ก้าวไกล” พล่าน ดัน “นิรโทษ” ล้างผิด-พ้นคุก!? https://mgronline.com/politics/detail/9660000106727
ทั้งนี้นายชัยธวัช ตุลาธนได้เข้าไปหาถึงท่านพุทธะอิสระแล้วถูกนำเอาคลิปมาเผยแพร่จนเป็นข่าว ดูได้จากข่าว “ชัยธวัช” ทำพลาด ที่ไปคุยเรื่องนิรโทษฯกับ “พุทธะอิสระ” แถมสุดท้ายยังถูกตลบหลัง- Talking Thailand ทางช่องวอยซ์ทีวี https://www.youtube.com/watch?v=HUuZdsgZGPE
พรรคเพื่อไทยได้ออกมาแถลงว่าจะเสนอ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมของตนเองต่างหากประกบกับพรรคก้าวไกล อันเป็นการแสดงการไม่ยอมรับ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมทางการเมืองของพรรคก้าวไกล นอกจากนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ จากพรรคเพื่อไทยได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกเรื่องที่มีความเห็นขัดแย้งกัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจ เพราะเราขึ้นมาเป็นรัฐบาลครั้งนี้ เราก็อยากจะแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ให้หมดไป ถ้าสมมติว่ามีประเด็นใดที่ยังเป็นประเด็นที่สังคมยังมีความเห็นแตกต่าง ก็ต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจน เราไม่อยากสร้างความขัดแย้งใหม่ ในขณะที่เราพยายามทลายกำแพงความขัดแย้งลง เพราะฉะนั้น จะเสนอเรื่องอะไร ก็เสนอได้ทั้งหมด ไม่มีปัญหา แต่ประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นต่าง ก็ต้องไปคุยกันให้จบก่อน” อ่านข่าวได้จาก เพื่อไทยเมิน นิรโทษฉบับก้าวไกลล่ม!? https://mgronline.com/politics/detail/9660000107890
ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา นายสมชาย แสวงการได้ออกมาโพสต์ให้ความเห็นว่าการนิรโทษกรรมทางการเมือง ยึดมั่นหลักการสนับสนุนปรองดองนิรโทษกรรมคดีการเมือง คัดค้านนิรโทษกรรม 3 คดีมั่นคงสำคัญ 1.ทุจริตชาติ 2.อาญาร้ายแรง และ 3.ความผิด ม.112 อ่านได้จากข่าว “ส.ว.สมชาย”ยืนยันคัดค้านนิรโทษกรรม 3 คดีมั่นคงสำคัญ อ่านข่าวได้จาก https://mgronline.com/uptodate/detail/9660000106803
จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุใดพรรคก้าวไกล จึงพยายามผลักดัน พรบ. นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งฉบับนี้เป็นอย่างดี พรรคก้าวไกล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (Stakeholders) กับพรรคก้าวไกล อันได้แก่คณะก้าวหน้า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่ม REDEM กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มทะลุวัง ตลอดจนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณิการ์ วานิช จะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่จากการนิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งฉบับนี้
ประการที่หนึ่ง เป็นที่น่าตกใจมากที่ สส. ของพรรคก้าวไกลมีประวัติคดีอาญายาวเหยียดเป็นหางว่าวดังแสดงในตารางข้างล่างนี้ มีจำนวนสส. ของพรรคก้าวไกลจำนวน 30 คน หรือที่เป็น สส. ในปัจจุบัน 28 คน (ยกเว้นนางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ที่เมาแล้วขับและลาออกไปแล้ว กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องคดีถือหุ้นสื่อไอทีวีและให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนในวันที่ 19 กรกฎาคม 2023) รวมเป็นจำนวนคดีอาญาทุกประเภทที่พบรวม 80 คดี ในจำนวนนี้คนที่พบคดีมากที่สุดคือนางสาวชลธิราแจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส. ปทุมธานี จำนวนรวม 16 คดีอาญา รองลงมาเป็นนายปิยรัฐ จงเทพ หรืออดีตนายโตโต้ หัวหน้าการ์ดวีโว่ สส. กรุงเทพมหานคร จำนวนรวมคดีอาญา 14 คดี และนายทวิวงศ์โตทวิวงศ์ หรือ สส. เต้ สส. พระนครศรีอยุธยาจำนวนรวมคดีอาญา 6 คดี
หาก พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ ผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้จริง และนิรโทษกรรมคดีอาญาทุกคดีไปด้วยนั้น จะทำให้ สส. พรรคก้าวไกล ได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก
ประการที่สอง มีจำนวน สส. พรรคก้าวไกลจำนวน 11 คน ที่มีคดีความมั่นคง ดังแสดงในตารางที่ 2
โดยมีสส. พรรคก้าวไกล 11 คน ที่มีคดีความมั่นคง มีจำนวนคดีรวมทั้งสิ้น 51 คดี โดยเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 6 คดี และคดีมาตรา 116 3 คดี โดยมีรายละเอียดดังนี้
หนึ่ง นายเซีย จำปาทอง สส.พรรคก้าวไกล แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 2 คดี ชั้นอัยการ 2 คดี
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่ สน.ปทุมวัน ในวันที่ 10 ก.พ. 2564 เวลา 16.00 น. บริเวณลานสกายวอร์ค ถ.พระราม 1 และต่อมาได้ปิดล้อม สน.ปทุมวัน ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ, ป.อาญาม.138 (ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน), ป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง), และ ป.อาญา ม.296 (ทำร้ายร่างกาย).
2.มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่ สน.บางโพ เมื่อปี 2564 ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง), พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, และพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ,
สอง นายเอกราช อุดมอำนวย สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 10 ทั้งหมด 1 คดี ชั้นสอบสวน 1 คดี
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.นางเลิ้ง (234/2564) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.บ.จราจรฯ, และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ
สาม นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ สส.พรรคก้าวไกล แบบบัญชีรายชื่อ (หมดสมาชิกภาพ สส. เนื่องจากต้องโทษคดีขับรถในขณะเมาสุรา) ทั้งหมด 1 คดี ชั้นสอบสวน 1 คดี
1.มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ลุมพินี (625/2564) ก่อเหตุเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 ณ แยกราชประสงค์” ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
สี่ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ทั้งหมด 7 คดี เปรียบเทียบปรับ 5 คดี ชั้นอัยการ 2 คดี 1-7 มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.พระนครศรีอยุธยาจำนวนเจ็ดครั้ง (18/2564, 138/2564, 139/2564, 140/2564, 141/2564, 929/2563, 930/2563) ถูกตั้งข้อหาในการกระทำความผิดพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ โดยมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อฯลฯ โฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยมิได้รับอนุญาต โฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศ หรือใบปสิวที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ห้า นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 2 ทั้งหมด 1 คดี ชั้นอัยการ 1 คดี 1. มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.ป่าพะยอม (286/2565) ถูกตั้งข้อหาในการกระทำความผิดป.อาญา ม.116 โดยกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล
หก นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.พรรคก้าวไกล แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 1 คดี ชั้นอัยการ 1 คดี 1.มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.เมืองกระบี่ (1148/2564) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 11.20 น. ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยร่วมกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สั่งห้ามผู้ใดกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเหตุให้โรคแพร่ออกไป
เจ็ด นางสาวปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดนนทบุรี เขต 2 ทั้งหมด 4 คดี เปรียบเทียบปรับ 1 คดี ชั้นสอบสวน 1 คดี ชั้นอัยการ 2 คดี
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.รัตนาธิเบศร์ (1069/2563) เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 หน้ากระทรวงพาณิชย์ ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.บ.จราจรฯ. และพ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ. รัตนาธิเบศร์ (928/2564) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 11.50 น. ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ทุ่งสองห้อง (436/2564) เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 หน้ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตาม ป.อาญา ม.139 (ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย) และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งนี้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีหลักประกัน 100,000 บาท กำหนดเงื่อนไข 1. ห้ามก่อความวุ่นวายหรือกระทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหา และ 2. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.สำราญราษฎร์ (321/2564) ก่อเหตุเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ณ บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตาม ป.อาญา ม.385 (ไม่ได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวาง หรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยไม่จำเป็น), พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ, และ พ.ร.บ.จราจรฯ
แปด นายปิยรัฐ จงเทพ สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 23 หัวหน้าการ์ด วีโว่ ทั้งหมด 16 คดี ชั้นสอบสวน 4 คดี ชั้นอัยการ 6 คดี ชั้นศาล 6 คดี
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.สำราญราษฎร์ (321/2564) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามป.อาญา ม.385 (ไม่ได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมายกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวาง หรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยไม่จำเป็น), พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ, และพ.ร.บ.จราจรฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.สำราญราษฎร์ (345/2564) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง) และป.อาญา ม.216 (สั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไปแต่ไม่เลิก)
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ลุมพินี (477/2564) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลรด์”ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยร่วมกันทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ภายในเขตพื้นที่ ที่หัวหน้ารับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงประกาศกำหนด
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.นางเลิ้ง (282/2564) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 เวลา 10.46 น. ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อเนื่องแยกผ่านฟ้า ในลักษณะของ Car mob ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามป.อาญา (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง) และป.อาญา ม.216 (สั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา ๒๑๕ ให้เลิกไปแต่ไม่เลิก), พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเป็นหัวหน้าสั่งการในการมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป (คดีร่วมกันกับนางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว), พ.ร.บ.จราจรฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง, และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ”
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.นางเลิ้ง (192/2563) ถูกตั้งข้อหาในการกระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม จัดกิจกรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.พญาไท (1834/2563) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามป.อาญา ม.138 (ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่), และป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง)
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ชนะสงคราม (525/2563) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ โดยฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน หรือการกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ม.9
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ยานนาวา (654/2563) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯโดยเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.คลองหลวง (68/2564) เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ณ บริเวณที่ทำการ สภ.คลองหลวง ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมกันชุมนุม หรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ยานนาวา (99/2564) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 เวลา 17.00-17.30 น. หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย ถ.สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, ป.อาญา ม.138 (ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่), ป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง), ป.อาญา ม.296 (ทำร้ายร่างกาย), และป.อาญา ม.358 (ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์)
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.เมืองอุบลราชธานี (7805/2563) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2563 ณ บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี และถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดตามป.อาญา ม.112 และตามป.อาญา ม.116
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.พญาไท (1682/2563) ถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน หรือการกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ. ยางตลาด (75/2564) ถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดตามป.อาญา ม.112 ในวันที่ 5 พ.ค. 2564 ศาลกาฬสินธุ์ ให้ประกันตัวแล้วโดยต้องวางหลักประกัน 200,000 บาท ติดกำไลอีเอ็ม และห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์ ห้ามออกนอกประเทศ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุทางระบบคอมพิวเตอร์และถูกแจ้งดำเนินคดีที่ กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) (29/2564) โดยเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564 นายปิยรัฐได้โพส Facebook อันเป็นเหตุให้ถูกตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตามป.อาญา ม.112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ฯ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(3)
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน. พหลโยธิน (201/2564) เมื่อวันที่ 6 มี.ค.64 บริเวณอาคารจอดรถ 2 ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ถูกตั้งข้อหากระผิดป.อาญา ม.209 (คณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่), ป.อาญา ม.210 (สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค ๒ นี้ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร), พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, และพ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน. พหลโยธิน (303/2564) ถูกตั้งข้อหากระทำความผิดตามป.อาญา ม.135 ((1) ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการใดอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรืออันตรายอย่างร้ายแรงต่อร่างกาย หรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ (2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ), ป.อาญา ม.140 (ถ้าความผิดตามมาตรา 138 วรรคสอง หรือมาตรา 139 ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป), ป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง), ป.อาญา ม.216 (เจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป แต่ไม่เลิก), ป. อาญา ม.358 (ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย), และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เก้า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคก้าวไกล แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมด 1 คดี ชั้นอัยการ 1 คดี 1. มีคดีความมั่นคงที่มีผู้แจ้งความในท้องที่ สภ.หัวไทร (183/2566) โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 นายพิธาโพสวีดีโอบน twitter อันเป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ ถูกตั้งข้อหากระทำผิดป.อาญา ม.116
สิบ นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดกรุงเทพมหานคร เขต 28 ทั้งหมด 1 คดี ชั้นศาล 1 คดี 1. มีคดีความมั่นคงที่มีผู้แจ้งความที่กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) (81/2564) โดยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 นางสาวรักชนกได้ทวิตข้อความใน Twitter อันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฯ ถูกตั้งข้อหาการกระทำความผิดตามป.อาญา ม.112, และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทั้งนี้นางสาวรักชนกได้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรบ. คอมพิวเตอร์มาตรา 14 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญได้มีวินิจฉัยไปแล้วว่าไม่ขัดแต่ประการใด นอกจากนี้ศาลอาญาจะนัดอ่านคำพิพากษาคดีมาตรา 112 ของนางสาวรักชนกในวันที่ 13 ธันวาคม นี้และนางสาวรักชนกจะขอใช้สิทธิ์ สส. เพื่อเลื่อนการฟังผลการพิจารณาคดีออกไป
สิบเอ็ด นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.พรรคก้าวไกล แบบแบ่งเขต จังหวัดปทุมธานี เขต 3 ทั้งหมด 16 คดี
ชั้นสอบสวน 1 คดี ชั้นอัยการ 8 คดี สั่งไม่ฟ้อง 1 คดี ชั้นศาล 6 คดี ถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.112 (หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) จำนวน 2 คดี
ถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.116 (กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน) จำนวน 1 คดี
ถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.215 (มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง) จำนวน 2 คดี
ถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.216 (สั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป แต่ไม่เลิก) จำนวน 1 คดี
ถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.358 (ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย) จำนวน 1 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำนวน 11 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ จำนวน 4 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จำนวน 2 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 1 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ จำนวน 4 คดี
ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ จำนวน 1 คดี ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจรฯ จำนวน 1 คดี
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.นางเลิ้ง (282/2564) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 เวลา10.46 น. ณ บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อเนื่องแยกผ่านฟ้า ในลักษณะ Car mob ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดป.อาญา ม.215, ม.216, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.จราจรฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง, และพ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.พหลโยธิน (225/2564) เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2564 บริเวณห้าแยกลาดพร้าวถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ชนะสงคราม (387/2563) เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2563 ณ บริเวณ แยกคอกวัว” ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ชนะสงคราม (393/2563) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2563 บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.พญาไท (1680/2563) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ประชาชื่น (980/2563) เมื่อวันที่19 ต.ค.2563 หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่ สน.ลุมพินี (1053/2563) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.พญาไท (1689/2563) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่ สน.สำราญราษฎร์ (546/2563) เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2563 เวลา 15.30 น. ณ บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดป.อาญา ม.215
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ (1486/2563) เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 ณ บริเวณ ท่ารถตู้ต่างจังหวัดตรงข้ามฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, และพ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ”
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.ชนะสงคราม (379/2563) เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2563 เวลา 18.30 น.-20.30 น. ที่หน้าร้านแม็คโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ (คดีนี้รู้จักกันในชื่อคดีแฮรี่พ็อตเตอร์) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดป.อาญา ม.116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ”
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.บางโพ (222/2563) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.บางโพ (239/2563) ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สน.สำราญราษฎร์ (555/2563) เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ, และป.อาญา ม.358
- มีคดีความมั่นคงก่อเหตุในท้องที่สภ.ธัญบุรี (1082/2564) เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 หน้าห้างฟิวเจอร์พาร์คไปถึงหน้าศาลธัญบุรี ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดป.อาญา ม.112, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, และพ.ร.บ.เครื่องขยายเสียงฯ”
- มีคดีความมั่นคงก่อถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ กก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) (18/2564) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 ถูกแจ้งข้อหาว่ากระทำผิดป.อาญา ม.112
ประการที่สาม ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียกับพรรคก้าวไกล อันได้แก่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ตลอดจนกลุ่มทะลุวังก็มีสถิติคดีความมั่นคงโดยเฉพาะคดีมาตรา 112 ป. อาญาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เก็บสถิติตั้งแต่ 24 พ.ย. 2563 จนถึงปัจจุบันมีผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 262 คน ใน 285 คดี โดยแกนนำการชุมนุมถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนทั้งหมด ดังนี้
- นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิ้น) 24 คดี
- นายอานนท์ นำภา 14 คดี
- นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง) 10 คดี
- นายภาณุพงศ์ จาดนอก (ไมค์) 9 คดี
- นางสาวเบนจา อะปัญ 8 คดี
- นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง (ไบรท์) 7 คดี
- นายพรหมศร วีระธรรมจารี (ฟ้า) 5 คดี
- นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา 4 คดี
- นายชูเกียรติ แสงวงค์ (จัสติน) 4 คดี
- นางสาววรรณวลี ธรรมสัตยา (ตี้ พะเยา)
- นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ (บิ๊ก) 4 คดี
- นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล (มายด์) 3 คดี
ข้อมูลจากบทความ สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ปี 2563-66 https://tlhr2014.com/archives/23983
ประการที่สี่ แกนนำคณะก้าวหน้า มีคดีอาญามาตรา 112 และ 116
ยกตัวอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ Facebook live วัคซีนพระราชทานใครได้ ใครเสีย เพื่อวิจารณ์เรื่องการจัดการวัคซีนของรัฐบาลและลามไปถึงการวิจารณ์บริษัทสยามไบโอไซเอนส์จำกัด ที่ถือหุ้นโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และเป็นการถือหุ้นในพระปรมาภิไธย ผลของการออกคลิปวัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย ในครั้งนั้น ทำให้นายธนาธร ถูกฟ้องคดี สองคดี คดีแรกเป็นคดีปิดกั้นคลิปวัคซีนพระราชทานใครได้ใครเสีย อันเป็นการฟ้องตามมาตรา 20. พรบ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีคำพิพากษาศาลฎีกา 1137/2566 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2566 ให้ปิดกั้นคลิปดังกล่าวเพราะมีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงและต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการละเมิดและกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์
นายธนาธรยังถูกฟ้องในการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากคลิปเดียวกันที่ สน. นางเลิ้ง และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาในศาลอาญาชั้นต้น ซึ่งนายทศพร เพ็งส้ม พยานโจทก์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐได้นำคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวในคดีปิดกั้นวัคซีนพระราชทานส่งให้ศาลอาญาได้พิจารณาด้วย ทั้งนี้การตัดสินของศาลอาญาชั้นต้นเป็นเอกเทศและเป็นอิสระจากการตัดสินของศาลฎีกาอีกคดีหนึ่ง แต่การเขียนคำพิพากษาให้แย้งกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินว่าเนื้อหาของคลิปวัคซีนพระราชทานใครได้ใครเสียดังกล่าวว่าเป็นภัยความมั่นคงและเป็นภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนมีเนื้อหาที่ละเมิดและกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ประการใด
ทั้งนี้แกนนำคณะก้าวหน้าทั้งสามคนคือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ยังถูกแจ้งความให้ดำเนินคดีฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่สน. พญาไท โดยทนายความของหลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งอัยการสูงสุดชี้ขาดให้สั่งฟ้องทั้งสามคนนี้
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์จากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับก้าวไกลที่หว่านแหนิรโทษกรรมมากที่สุดก็น่าจะเป็นพรรคก้าวไกลเอง คณะก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และแนวร่วมทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมหรือกลุ่มทะลุวัง
ทั้งนี้การที่นายธนาธรและแกนนำคณะก้าวหน้าออกมากล่าวว่าจะสละสิทธิ์ไม่ยอมใช้สิทธิ์ในการนิรโทษกรรมทางการเมืองนั้นก็เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่อาจจะเชื่อได้ว่านักการเมืองจะรักษาสัจจะ นอกจากนี้ สส.พรรคก้าวไกลเป็นจำนวนมากจะได้รับอานิสงค์และผลประโยชน์จากการนิรโทษกรรมคดีอาญาและคดีความมั่นคงด้วย จึงเป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมไทยต่อไป โดยส่วนตัวผมไม่เชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางการเมืองฉบับก้าวไกลนั้นจะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพราะเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of interest) เป็นการนิรโทษกรรมที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและยกโทษให้ตนเองและพวกพ้องอย่างไม่เป็นการสมควร