หน้าแรกการเมืองด่วน!!เพื่อไทยมีมติตะเพิด‘ศรัณย์วุฒิ-พรพิมล’พ้นพรรคมีผลทันที

ด่วน!!เพื่อไทยมีมติตะเพิด‘ศรัณย์วุฒิ-พรพิมล’พ้นพรรคมีผลทันที

วันที่ 12 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พท. เพื่อพิจารณาความผิด 2 ส.ส. ได้แก่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากนั้น กรรมการบริหารพรรคได้นำผลการตัดสิน ไปประชุมร่วมกับ ส.ส.ของพรรค เพื่อขอมติจาก ส.ส. เพื่อขับพ้นจากความเป็นสมาชิก โดยจะต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ของ ส.ส.ทั้งหมด ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งห้องประชุมออกเป็น 2 ห้อง ตามมาตรการรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันโควิด-19
.
จากนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงผลการลงมติว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ได้พิจารณารายงานการสอบสวนวินัย และจริยธรรมของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมแล้วมีมติ ดังนี้ 1.กรณีของนายศรัณย์วุฒิมีพฤติการณ์กล่าวหาพรรคและผู้บริหารของพรรคด้วยการแถลงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งติดต่อกัน อันมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค เป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 ข้อ 19 (3) และ (8) และเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (3) และ (5)
.
จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนายศรัณย์วุฒิ ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรคข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนางพรพิมล มีพฤติการณ์ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ไม่ยืดมั่นในเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค อีกทั้งเป็นการกระทำผิดซ้ำสองในพฤติการณ์เดียวกัน ซึ่งพรรคได้เคยมีมติลงโทษไปแล้ว ตามคำสั่งพรรคเพื่อไทย ที่ 0045/2563 ลงวันที่ 4 ก.พ. 63
.
ซึ่งการฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นของนางพรพิมล ถือเป็นการผ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561ข้อ 19 (3) และ (7) และถือเป็นการกระทำผิดวินัย และจริยธรรมของการเป็นสมาชิกตามข้อบังคับพรรคข้อ 113(2) (3) และ (12) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนางพรพิมล ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรค ข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
.

ThePOINT #ข่าวการเมือง #พรรคเพื่อไทย #คณะกรรมการบริหารพรรค #ศรัณย์วุฒิศรัณย์เกตุ #พรพิมลธรรมสาร

Must Read

Related News

- Advertisement -