ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความระบุว่า Re-inventing University และ Education Innovation เมื่อวานผมได้รับแจ้งข่าวดีว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สป.อว.) ได้แจ้งการจัดทำบันทึกข้อตกลงการจัดสรรเงินอุดหนุนของโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Re-inventing University) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กับนิด้าภายในวงเงินทั้งสิ้น 4,000,000 บาท
.
ต้องขอบคุณทีมผู้บริหารชุดก่อน และคณาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสถิติประยุกต์ คณะการจัดการการท่องเที่ยว และศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้ร่วมกันเขียนข้อเสนอศึกษาความเป็นไปได้ พัฒนาความพร้อม และพัฒนาโมเดลการพลิกโฉมสู่ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและบัณฑิตศึกษาใน 5 สาขา คือ
1.การบริหารจัดการภาครัฐด้วยดิจิทัล (Digital and Smart Public Administration)
2.การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคม (Driving Sustainable Development through Social Business Innovation)
3.วิทยาการข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Science and Data Analytics)
4.การคิดเชิงออกแบบเพื่อการพัฒนานวัตกรรม (Design Thinking for Innovation) และ
5.การคาดการณ์อนาคต (Strategic Foresight)
.
ผมคิดว่าองค์ความรู้ทั้ง 5 สาขาเป็นองค์ความรู้ที่ทันสมัยตอบโจทย์กับบริบทโลกและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และเป็นองค์ความรู้ที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
.
ผมสนับสนุนและเห็นด้วยว่าโครงการ Re-inventing University เป็นโครงการที่สำคัญ ที่ริเริ่มขึ้นในสมัยที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม และได้รับการผลักดันและสานต่ออย่างต่อเนื่อง โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมท่านปัจจุบัน โดยได้เสริมความเชื่อมโยงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศิลปกรรมศาสตร์ โดยทำการจัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยขึ้น (Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and Arts)
.
ดังที่ผมเคยแสดงความเห็นไว้ว่าระบบการศึกษามีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม(https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=115810121064715&id=100079071825950)
.
ดังนั้นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำการ Re-inventing University เพื่อให้เกิด Education Innovation ซึ่งเป็นนวัตกรรมทั้งด้านหลักสูตร การบริหารจัดการ และรูปแบบการเรียนการสอน เพราะระบบการศึกษา มีความสำคัญต่อการสร้างคน และ“การสร้างอนาคตคน” เท่ากับ “การสร้างอนาคตไทย”
.